แพลตฟอร์มคริปโต eXch ประกาศปิดตัวหลังถูกโยงฟอกเงินแฮกไบร์บิต 35 ล้านดอลลาร์

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแบบเน้นความเป็นส่วนตัว ‘eXch’ ประกาศหยุดดำเนินการทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ท่ามกลางกระแสสงสัยเกี่ยวกับการฟอกเงินจากการแฮกของไบร์บิต(Bybit) รวมถึงแรงกดดันจากการตรวจสอบระหว่างประเทศที่เข้มงวด

ทีมงานของ eXch ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดจาก ‘ฉันทามติภายใน’ โดยมองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมมากกว่าที่จะ *หยุดและถอนตัว* แทนที่จะพยายามเดินหน้าท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นปรปักษ์

การปิดตัวครั้งนี้สอดคล้องกับข้อกล่าวหาของ eXch ที่อ้างว่ามี ‘ปฏิบัติการเหนือรัฐ’ ที่พยายามรื้อโครงสร้างแพลตฟอร์มและดำเนินคดีทางอาญา โดยมีข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกคริปโตมูลค่าราว 35 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,270 ล้านบาท) ผ่านเครือข่ายผู้ก่อการร้ายและกลุ่มแฮกเกอร์ลาซารัสของเกาหลีเหนือ

แม้ทีม eXch ยอมรับว่าอาจมีเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายปริมาณเล็กน้อยไหลผ่านระบบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน พร้อมปฏิเสธว่าแพลตฟอร์มของตนไม่ได้ทำงานในลักษณะเดียวกับ *มิกเซอร์* ที่ช่วยบดบังการทำธุรกรรมเหมือนที่นักวิเคราะห์บางรายกล่าวหา

ผู้ก่อตั้ง eXch ยังได้วิจารณ์นโยบายของหลายกระดานเทรดที่มักอิงข้อมูลจาก API สำหรับตรวจสอบการฟอกเงินของบุคคลที่สามว่า “ไร้เหตุผล” และ “ไม่สามารถป้องกันฟอกเงินได้จริง” โดยชี้ว่าแนวทางดังกล่าวมีช่องโหว่และหลีกเลี่ยงได้ง่าย

ก่อนปิดตัว eXch ได้ประกาศตั้ง *กองทุนโอเพนซอร์ส* มูลค่า 50 บิตคอยน์(BTC) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเครื่องมือสำหรับการเงินแบบเป็นส่วนตัวและกระเป๋าคริปโตบนเครือข่ายต่างๆ เช่น บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) โดยจะมีการถ่ายโอนการบริหารให้ผู้บริหารใหม่ ซึ่งในระหว่างนี้พาร์ทเนอร์ยังสามารถใช้ API ได้ในบางส่วนอย่างจำกัด

ด้านเหตุการณ์แฮกของไบร์บิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์โจรกรรมคริปโตที่ใหญ่ที่สุด โดยมีสินทรัพย์ดิจิทัลสูญหายกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 53,000 ล้านบาท) ครอบคลุมโทเคนอย่าง stETH และ mETH

นักวิเคราะห์ออนเชนอย่าง ZachXBT และนิค พาคซ์(Nick Bax) จาก Security Alliance เคยกล่าวหาว่า eXch มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยฟอกเงินของกลุ่มลาซารัสจากการแฮกไบร์บิต ขณะที่บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง SlowMist ก็ระบุว่ามีการโอนอีเธอเรียมจากวอลเลตที่เกี่ยวข้องกับการแฮกผ่านระบบของ eXch

แม้เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายมหาศาล แต่ไบร์บิตกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ Block Scholes เมื่อวันที่ 9 เมษายน ระบุว่า *ส่วนแบ่งตลาด* ของไบร์บิตดีดกลับจาก 4% หลังถูกแฮก ขึ้นมาอยู่ที่ 7% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทั้งในด้านปริมาณซื้อขายและกิจกรรมบนแพลตฟอร์มในแบบที่หลายฝ่ายอาจคาดไม่ถึง

*ความคิดเห็น:* บทเรียนจากกรณี eXch ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของแพลตฟอร์มที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการดำเนินงานภายใต้แรงกดดันระหว่างประเทศ ขณะที่ตลาดกำลังทบทวนบทบาทของเครื่องมือมิกเซอร์และข้อจำกัดของมาตรการ AML แบบดั้งเดิม