กองทุนเฮดจ์แห่ชอร์ตอีเธอเรียม(ETH) หลังราคาอ่อนตัวลง
ตามรายงานของ Cointelegraph เมื่อวันที่ 10 กองทุนเฮดจ์เพิ่มสถานะ ‘ชอร์ต’ ในอีเธอเรียม(ETH) กว่า 500% นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข้อมูลจาก Kobeissi Letter ระบุว่าเพียงแค่สัปดาห์ที่แล้ว จำนวนการชอร์ตเพิ่มขึ้นอีก 40% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงของสินทรัพย์นี้
แรงขายที่เพิ่มขึ้นทำให้อีเธอเรียมร่วงลงกว่า 37% ในช่วงเวลาเพียง 60 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปัจจัยหลักมาจากข่าวเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าในระดับโลก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับบิตคอยน์(BTC) อีเธอเรียมยังคงมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์พุ่งขึ้น 104% ขณะที่อีเธอเรียมเพิ่มขึ้นเพียง 5.9% เท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอีเธอเรียมได้รับผลกระทบจาก ‘เอฟเฟกต์การเจือจาง’ (dilution effect) เนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของบล็อกเชนเลเยอร์ 1 เจมส์ วู(James Wo) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ DFG ให้ความเห็นว่า "การเกิดขึ้นของบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ใหม่ๆ ทำให้นักลงทุนแบ่งความสนใจ ส่งผลให้ราคาของอีเธอเรียมฟื้นตัวช้ากว่าที่ควร"
อย่างไรก็ตาม อีเธอเรียมยังคงเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในระบบนิเวศดีไฟน์(DeFi) โดยมีโปรโตคอลหลักอย่างยูนิสวอป(Uniswap), ลิโด(Lido) และอาเบ(Aave) เป็นแกนสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าหากกิจกรรมบนเครือข่ายกลับมาคึกคัก อีเธอเรียมมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
ออเรลี บาร์แตร์(Aurelie Barthere) นักวิจัยอาวุโสจาก Nansen เผยว่า "เพื่อให้อีเธอเรียมกลับไปที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ การใช้งานเครือข่ายต้องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" พร้อมเสริมว่า "หากกฎระเบียบเกี่ยวกับบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ดีขึ้น การร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญ"
ความคิดเห็น 0