แอพทอส(Aptos) เสนอปรับลดรางวัลสเตก 50% จุดกระแสถกเถียงในชุมชน

สมาชิกในชุมชนแอพทอส(Aptos) ได้เสนอการปรับลดรางวัลจากการสเตก(Staking) ลงประมาณ 50% เมื่อวันที่ 18 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเงินทุนและทำให้รางวัลอยู่ในระดับเดียวกับบล็อกเชนเลเยอร์ที่หนึ่งรายอื่นๆ ข้อเสนอนี้ซึ่งมาจากสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า ‘มูนเชสตี้(MoonShasty)’ มีเป้าหมายลดอัตราผลตอบแทนจาก 7% เหลือ 3.79% เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยที่การอภิปรายบนแพลตฟอร์ม X ยังดำเนินต่อไป ขณะที่ข้อเสนอซึ่งถูกเผยแพร่บน GitHub เริ่มได้รับเสียงสะท้อนจากชุมชน

ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ผู้ถือโหนดขนาดเล็ก เนื่องจากรางวัลที่ลดลงอาจทำให้โหนดเหล่านี้เลือกถอนตัวออกจากเน็ตเวิร์ก กระทบต่อระดับการกระจายอำนาจของแอพทอส ชุมชนจึงเสนอให้สร้าง ‘โปรแกรมตรวจสอบจากชุมชน’ โดยมอบเงินอุดหนุนและโอกาสในสเตกแก่ผู้ตรวจสอบรายย่อย เพื่อรักษาสมดุลของเครือข่าย

ตามข้อมูลจาก DefiLlama ณ วันที่ 18 เมษายน มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อกทั้งหมด(TVL) บนแอพทอสอยู่ที่ประมาณ 974 ล้านดอลลาร์ โดยมากกว่า 320 ล้านดอลลาร์มาจากโปรโตคอลกู้ยืมชื่อว่า แอร์ริส มาร์เก็ต(Aries Market)

ในมุมมองของ ‘เอลลากาบาลเอ็กซ์โหนด(ElagabalXNode)’ สมาชิกชุมชนอีกคนหนึ่ง เขาแสดง ‘ความเห็น’ ว่า หากไม่มีระบบกระจายรางวัล เช่น โปรแกรมจัดสรรสิทธิ์ขั้นสูง รางวัลสเตกที่ลดลงจะยิ่งผลักดันให้ผู้ตรวจสอบรายเล็กถอนตัว กระทบต่อเสถียรภาพระยะยาวของเครือข่ายโดยรวม

ด้าน ‘มูนเชสตี้’ ผู้เสนอแผนมองว่า อัตรารางวัลที่สูงเกินไป อาจขัดขวางไม่ให้ผู้ใช้นำสินทรัพย์ไปใช้ในโอกาสที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น การรีสเตก, โครงสร้างพื้นฐาน DePIN, MEV และโปรโตคอล DeFi หลายประเภท เขาเน้นย้ำว่าอัตราผลตอบแทนจากการสเตกในแต่ละเครือข่ายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เช่น บีเอ็นบีสมาร์ตเชน(BNB Smart Chain) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.43% ขณะที่คาร์ดาโน(Cardano) กลับมีเพียง 0.55%

แม้ผลตอบแทนจากสเตกจะเปรียบได้กับดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์ แต่ต่างกันตรงที่จ่ายเป็นคริปโตซึ่งมีความผันผวน ด้านข้อดีของ ‘การสเตก’ ได้แก่ การล็อกเหรียญไว้บนเชน, สนับสนุนผู้ตรวจสอบธุรกรรม และเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่าย

ประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนกลไกรางวัลจากสเตกไม่ได้มีเฉพาะบนแอพทอสเท่านั้น ในอดีต โพลกาดอท(Polkadot) เคยเสนอการลดระยะเวลาการถอนเหรียญเหลือเพียง 2 วัน และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สตาร์กเน็ต(StarkNet) ก็ได้ริเริ่มกลไกรางวัลใหม่ขึ้นมา ด้าน ‘วิตาลิก บูเตริน(Vitalik Buterin)’ ก็ได้แบ่งปันแนวทางแก้ปัญหาบางประการเกี่ยวกับระบบสเตกอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน