โคอินเบสเปิดตัวสัญญาฟิวเจอร์สริปเปิล(XRP) ภายใต้การกำกับดูแล CFTC เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน

เมื่อวันที่ 21 (เวลาท้องถิ่น) โคอินเบส เดอริเวทีฟส์ เอ็กซ์เชนจ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอนุพันธ์ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ได้ประกาศเปิดตัว *สัญญาฟิวเจอร์สของริปเปิล(XRP)* อย่างเป็นทางการในตลาดที่ได้รับการกำกับดูแล โดยถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ช่วยขยายช่องทางการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดอนุพันธ์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัญญาฟิวเจอร์สของริปเปิล(XRP) ที่เริ่มทำการซื้อขายในครั้งนี้ เป็น *สัญญาซื้อขายล่วงหน้า* ที่มีมาตรฐาน โดยไม่ใช่การซื้อขายเหรียญ XRP จริง แต่เป็นการตกลงล่วงหน้าว่าจะซื้อหรือขาย XRP ในราคาที่กำหนดไว้ ณ วันใดวันหนึ่งในอนาคต การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าแห่งสหรัฐฯ (CFTC) ซึ่งทำให้โครงสร้างการซื้อขายและกระบวนการควบคุมมีความชัดเจน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่เคยกังวลกับแพลตฟอร์มนอกระบบก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 เมษายน โคอินเบส ได้ยื่นคำขอรับรองตัวเองสำหรับการเปิดตัวสัญญา XRP ฟิวเจอร์สต่อ CFTC ซึ่งต่อมาได้เปิดให้ซื้อขายจริงในวันที่ 21 เมษายน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของโคอินเบสในการสร้าง *ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับการกำกับดูแล* สำหรับทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในวงการอุตสาหกรรมคริปโต

การเปิดตัวสัญญาฟิวเจอร์สครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่ *สหรัฐฯ เริ่มเปิดกว้างต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น* โดยเฉพาะเมื่อมีความต้องการจากนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงคริปโตผ่านเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ฟิวเจอร์สหรือ ETF ซึ่ง XRP ก็ถือเป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์หลักของโครงการริปเปิล และประสบกับข้อกังขาเชิงกฎหมายมานานก่อนหน้านี้ การได้รับการอนุมัติภายใต้ CFTC จึงช่วยยกระดับ *ความเชื่อมั่นในตลาด* ได้เป็นอย่างดี

*ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญในวงการระบุว่า การที่สัญญา XRP ฟิวเจอร์สได้รับการอนุมัติในตลาดที่อยู่ภายใต้การควบคุม ถือเป็นสัญญาณว่า ‘การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล’ ภายใต้กรอบกฎหมายสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง นอกจากจะเป็นช่องทางใหม่ในการบริหารความเสี่ยงและวางกลยุทธ์การลงทุนสำหรับเทรดเดอร์แล้ว ยังอาจนำไปสู่การพัฒนา *ฟิวเจอร์สในเหรียญอื่นๆ* อาทิ อัลต์คอยน์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนตลาดอนุพันธ์คริปโตให้เติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต