เจ้าหน้าที่ไทยและจีนร่วมมือกันระงับสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 90 ล้านบาท) และทลายขบวนการฉ้อโกงครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 5 ตามรายงานของสื่อไทย ‘Khaosod English’ สถานีตำรวจหัวหมากและหน่วยปฏิบัติการพิเศษด้านอาชญากรรมไซเบอร์ (PCT) ของไทยได้จับกุม เย่ หวานยู่ อายุ 29 ปี และ หลี่ เว่ยเจ๋อ อายุ 30 ปี สองผู้ต้องหาชาวจีน ทั้งคู่พยายามรีเซ็ตโทรศัพท์มือถือและหลบหนี แต่ถูกจับได้ภายในบ้านหรูในกรุงเทพฯ ระหว่างการตรวจค้น ตำรวจพบและยึดเงินสดจำนวน 44,550 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท)
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ทำงานร่วมกับสำนักงานความมั่นคงสาธารณะของจีน ค้นพบกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ซ่อนอยู่ ซึ่งมีเหรียญเทเทอร์ (USDT) มูลค่ากว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ การสืบสวนชี้ให้เห็นถึงขบวนการฉ้อโกงขนาดใหญ่ และยังมีข้อสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์ในเขตชายแดนเมียวดีของเมียนมา
การสืบสวนเพิ่มเติมยังเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมีส่วนพัวพันกับการขายสินค้าปลอมในไทย นอกจากนี้ ยังพบเครือข่ายปฏิบัติการในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมระดับนานาชาติ
ทางการไทยได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และยืนยันว่าจะคัดค้านการให้ประกันตัว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังตามล่าหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมและตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยคาดว่าอาจมีเครือข่ายขนาดใหญ่เบื้องหลัง
ปฏิบัติการครั้งนี้ตอกย้ำถึงความร่วมมือระหว่างไทยและองค์กรบังคับใช้กฎหมายระดับนานาชาติ ที่เข้มงวดมากขึ้นต่ออาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล คาดว่าในอนาคต การปราบปรามกลโกงในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นจะดำเนินต่อไป
ความคิดเห็น 0