บัลลาจีแนะอินเดียใช้คริปโตเป็นอาวุธเศรษฐกิจ ตอบโต้ปากีสถานอย่างชาญฉลาด

บัลลาจี ศรีนิวาสัน(Balaji Srinivasan) ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการตอบสนองของอินเดียต่อการก่อการร้ายจากปากีสถานเมื่อไม่นานมานี้ โดยเขาเน้นว่า อินเดียไม่ควรทำผิดซ้ำรอยเหมือนที่สหรัฐฯ เคยทำหลังเหตุการณ์ 9/11

บัลลาจีแนะนำให้อินเดียใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์ด้วยการ ‘โดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ’ แทนการทำสงคราม โดยเสนอว่า ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการนี้

เขาวิเคราะห์ว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการเข้าสู่สงครามราคาแพง ซึ่งส่งผลให้ประเทศอย่างจีนได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ บัลลาจีเตือนว่า ปากีสถานอาจต้องการให้อินเดียตกหลุมพรางเดิม และย้ำว่าอินเดียควรใช้กลยุทธ์ระยะยาวที่ชาญฉลาดกว่า

ในแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น บัลลาจีเสนอว่า อินเดียควรมุ่งเน้นการเสริมสร้างการรักษาความปลอดภัยชายแดน การดำเนินงานกองกำลังพิเศษต่อต้านการก่อการร้าย และเลือกตัดช่องทางการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และยุโรปให้กับปากีสถาน แทนการทำสงคราม

ที่สำคัญ เขาเน้นว่า ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ สามารถเป็นกุญแจสำคัญ อินเดียสามารถลดการพึ่งพาระบบการเงินเดิม ด้วยการขยาย ‘เศรษฐกิจคริปโต’ ส่งผลให้สามารถรักษา ‘อธิปไตยทางการเงิน’ และทำให้ปากีสถานถูกตัดขาดจากตลาดโลก

ในระยะกลาง บัลลาจีแนะนำให้อินเดียใช้ขนาดตลาดภายในประเทศเป็น ‘อำนาจต่อรอง’ เพื่อกดดันให้ประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรยุติการค้ากับปากีสถาน พร้อมชี้ว่า การผลักดันการใช้คริปโตที่แพร่หลายและเสริมสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจจะทำให้ปากีสถานเผชิญความยากลำบากทางการเงิน

ขณะที่ในระยะยาว บัลลาจีมองว่า อินเดียควรร่วมมือกับจีนและประเทศในอ่าวเปอร์เซียเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติในปากีสถาน โดยใช้ ‘พลังอิทธิพลทางการเงิน น้ำมัน และคริปโตเคอร์เรนซี’ แทนการเผชิญหน้าทางทหาร

ข้อสรุปของบัลลาจีนั้นชัดเจน คือให้อินเดียหลีกเลี่ยง ‘การตอบสนองด้วยอารมณ์’ และเลือกใช้ ‘กลยุทธ์ระยะยาว’ ผ่านการผสาน ‘พลังของคริปโตเคอร์เรนซีและเศรษฐกิจ’ เพื่อสร้างอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นไม่เพียงแค่สำหรับอินเดีย แต่สำหรับทั้งภูมิภาค ความคิดเห็นของเขาย้ำว่า ชัยชนะที่แท้จริงในยุคปัจจุบัน จะไม่เกิดจากสงคราม แต่จากการควบคุมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี.