บิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัว 8% แตะ 100,000 ดอลลาร์นักวิเคราะห์เตือนระวังแรงขาย

ราคาบิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเตือนว่ากระแสขาขึ้นอาจชะลอตัวลงบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 3.68 ล้านบาท) หลังมีข้อสงสัยว่าเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้าสู่กองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์แบบสปอต อาจไม่ได้สะท้อนจุดสูงสุดของตลาดอย่างแท้จริง

บิตคอยน์(BTC) สามารถพลิกกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบ 8% หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 74,400 ดอลลาร์เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากความต้องการลงทุนในอีทีเอฟสปอตอย่างร้อนแรง ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิถึง 3.06 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 4.47 แสนล้านบาท) ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่ากระแสเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่อีทีเอฟบิตคอยน์(BTC) มิได้เป็นสัญญาณว่าตลาดได้แตะจุดสูงสุดเสมอไป ในบางกรณี เงินทุนเหล่านี้สอดคล้องกับการพุ่งขึ้นของราคา หรือแม้แต่เกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะทะยานขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ตามมาด้วยการปรับฐานในภายหลัง

นักวิเคราะห์ตลาดส่วนใหญ่มองว่าการไหลเข้าสู่กองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์สปอตมักช่วยกระตุ้นราคาบิตคอยน์(BTC) ในระยะสั้น แต่ก็มีเสียงเตือนว่า การตีความแนวโน้มดังกล่าวเป็นสัญญาณการกลับตัวในระยะกลางถึงยาว อาจเป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไป โดยเฉพาะบริเวณแนวตั้งทางจิตวิทยา 100,000 ดอลลาร์ ที่อาจเกิดแรงขายกดดันค่อนข้างหนัก

ดังนั้น ศักยภาพในการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบิตคอยน์(BTC) อยู่ภายใต้ปัจจัยผันแปรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สภาพคล่องในตลาด จิตวิทยานักลงทุน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ถึงแม้อุปสงค์ที่แข็งแกร่งต่อผลิตภัณฑ์อีทีเอฟสปอตจะเป็นตัวสนับสนุนตลาดในระยะยาว แต่ในระยะสั้นก็มี ‘ความเสี่ยงเรื่องความผันผวน’ ที่นักลงทุนควรระมัดระวังเช่นกัน ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ชี้ว่าผู้ที่สนใจลงทุนควรจับตาปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม