เมื่อวันที่ 28 (เวลาท้องถิ่น) สภาผู้แทนราษฎรรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ ได้อนุมัติร่างกฎหมายสองฉบับที่อนุญาตให้รัฐสามารถถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* และ *คริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ* ในฐานะสินทรัพย์ของรัฐ โดยเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มด้านนโยบายคริปโตระดับรัฐ
ร่างกฎหมายแรก วุฒิสภาร่างที่ 1025 (SB1025) ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 31 ต่อ 25 เพื่อจัดตั้ง ‘เงินสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์’ ขณะที่ร่างที่สอง วุฒิสภาร่างที่ 1373 (SB1373) ซึ่งเสนอกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลแยกต่างหาก ก็ได้รับเสียงสนับสนุน 37 ต่อ 19
เนื้อหาของทั้งสองร่างระบุว่า หน่วยงานคลังของรัฐสามารถลงทุนใน *สินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึงบิตคอยน์* ได้สูงสุดไม่เกิน 10% ของสินทรัพย์ในครอบครองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของนโยบายทรัพย์สินดิจิทัลระดับรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของรัฐอื่นๆ ที่ขณะนี้อย่างน้อย 15 รัฐอยู่ระหว่างการหารือแนวทางในลักษณะเดียวกัน
เจฟฟ์ เวนนิงเกอร์(Jeff Weninger) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐแอริโซนา ให้ความเห็นว่า “ในช่วงแรกนั้นอาจเป็นเพียงวิธีการ ‘เลือกใช้’ แต่ในระยะยาวถือเป็นรากฐานสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่มี *บิตคอยน์* เป็นศูนย์กลาง”
แม้จะยังไม่มีแผนซื้อบิตคอยน์ในทันที แต่นักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการปูทางให้ *บิตคอยน์* กลายเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับทุนสำรองที่มีความมั่นคงสูง โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญความผันผวน
น่าสังเกตว่า การผลักดันร่างกฎหมายครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ *ทรัมป์* ประกาศจุดยืนสนับสนุนคริปโตอย่างเปิดเผยในเชิงนโยบาย ซึ่งอาจนำไปสู่การถกเถียงในระดับชาติเรื่องบทบาทของรัฐบาลกลางและรัฐในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล
ตอนนี้หลายรัฐในสหรัฐฯ ได้เริ่มริเริ่มนโยบายคริปโตในลักษณะต่างๆ เช่น อนุญาตให้ชำระภาษีด้วย *บิตคอยน์* หรือลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัล ความเคลื่อนไหวของรัฐแอริโซนาในครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการกำหนดให้ *คริปโตเคอร์เรนซี* เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในระดับรัฐบาลท้องถิ่นอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น 0