บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 64,000 ดอลลาร์ หลังทรัมป์กดดัน Fed ลดดอกเบี้ย หนุนตลาดคริปโตคึกคัก

บิตคอยน์(BTC)และตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันที่ 2 (เวลาท้องถิ่น) หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ บ่งชี้ว่า *ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง* อย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลดังกล่าวสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว พร้อมกระตุ้นความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง

ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) *ลดดอกเบี้ย* ลงอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าระดับดอกเบี้ยในปัจจุบันกำลังเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทรัมป์ยังย้ำในสุนทรพจน์และการให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า Fed ควรเร่งเปลี่ยนนโยบายการเงินไปสู่ทิศทางผ่อนคลาย ข้อความนี้ส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ราคาของบิตคอยน์และสินทรัพย์หลักอื่น ๆ พุ่งสูงขึ้น

บิตคอยน์ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยพุ่งผ่านระดับ *64,000 ดอลลาร์สหรัฐ* หลังการเปิดตลาดวอลสตรีท ขณะที่ดัชนีแนสแด็กและ S&P500 ของสหรัฐต่างเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน สะท้อนถึงภาวะ *ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง* ที่ฟื้นตัวขึ้นจากสองปัจจัยหลัก คือ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง และการส่งสัญญาณทางนโยบายการเงินของทรัมป์

ในด้านนักลงทุนระดับมืออาชีพบางรายเตือนว่า แนวโน้มราคาบิตคอยน์ล่าสุดอาจไม่ใช่เพียงการปรับขึ้นต่อเนื่องธรรมดา แต่เป็น "โครงสร้างราคาที่หลอกล่อให้ขายก่อนดันราคาขึ้น" โดยหนึ่งในนักเทรดชี้ว่า ราคาบิตคอยน์อาจเข้าสู่ช่วง ‘*ดูดสภาพคล่อง*’ รอบใหม่ที่บริเวณใกล้ *97,000 ดอลลาร์สหรัฐ* ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการชำระบัญชีครั้งใหญ่ในอดีต และอาจนำไปสู่การกลับทิศราคาหลังจากมีความพยายามดันขึ้นในระยะสั้น

บริษัทวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลหลายแห่งประเมินว่า การผสานกันระหว่างข้อความจากทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ย และข้อมูลการจ้างงานจากรัฐบาล อาจกลายเป็น *แรงผลักดันระยะกลาง* ที่นำพาตลาดคริปโตมุ่งหน้าสู่เทรนด์ขาขึ้นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหาก Fed ตอบสนองต่อแรงกดดันจากทรัมป์ด้วยการลดดอกเบี้ยจริง ราคาบิตคอยน์และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมก็อาจเห็น *การปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง* ในเวลาต่อมา ความคิดเห็นเชิงบวกเช่นนี้ทำให้ผู้เล่นในตลาดจับตามองนโยบายการเงินสหรัฐอย่างใกล้ชิดในช่วงถัดไป