คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายระยะเวลาในการตอบสนองต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของทีมเฉพาะกิจด้านคริปโตที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น และอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางกฎหมายของหน่วยงาน
จากเอกสารทางกฎหมายที่ยื่นต่อศาลแขวงรัฐอิลลินอยส์ตอนเหนือเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ (เวลาท้องถิ่น) SEC ได้ร้องขอให้ศาลขยายกำหนดส่งคำตอบสำหรับคำร้องขอให้ยกฟ้องของบริษัท Cumberland DRW จากวันที่ 19 กุมภาพันธ์ไปเป็นวันที่ 21 มีนาคม โดยให้เหตุผลว่าการขยายเวลาดังกล่าวจะช่วยให้มีโอกาสเจรจาประนีประนอมเพื่อยุติคดี และเป็นการใช้ทรัพยากรทางกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ คำร้องขอขยายเวลาของ SEC มีความคล้ายคลึงกับเอกสารที่ยื่นในคดีความกับไบแนนซ์(Binance) ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เกิดข้อสังเกตว่า SEC อาจนำกลยุทธ์แบบเดียวกันไปใช้กับคดีของกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ในอนาคต เช่น คราเคน(Kraken), คอยน์เบส(Coinbase) และริปเปิล แลปส์(Ripple Labs)
นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า คำร้องขอขยายเวลาดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณสำคัญของการปรับเปลี่ยนทิศทางด้านนโยบายของผู้นำใหม่ของ SEC โดยมาร์ค วินี อดีตอัยการจากสำนักงานอัยการเขตตะวันออกของนิวยอร์กกล่าวว่า “หาก SEC กำลังเปลี่ยนนโยบาย โดยไม่ถือว่าคริปโตเป็น ‘หลักทรัพย์’ อีกต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาจะถูกระงับลงโดยสิ้นเชิง”
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของ SEC เกี่ยวกับคริปโตยังปรากฏชัดภายในองค์กรเอง เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เบรเดน จอห์น คาโรนี อดีตซีอีโอของเซฟมูน(SafeMoon) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเลื่อนกระบวนการคัดเลือกคณะลูกขุนออกไป 30 วัน โดยให้เหตุผลว่าแนวทางของ SEC ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงควรได้รับการพิจารณาก่อนเดินหน้าการพิจารณาคดีต่อไป
การใช้กลยุทธ์การชะลอคดีที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลของ SEC ทำให้เกิดความสนใจว่า นี่อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐฯ ในอนาคต
ความคิดเห็น 0