ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
สไตรฟ แอสเสท แมเนจเมนต์(Strive Asset Management) บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ก่อตั้งโดย วิเวก รามาสวามี(Vivek Ramaswamy) กำลังสร้างความสนใจในตลาด หลังประกาศเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โดยเน้นการถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* เป็นหลัก
เมื่อวันที่ 7 สไตรฟเปิดเผยแผนการควบรวมกิจการกับ *Asset Entities* ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก โดยจะใช้วิธี ‘การควบรวมแบบย้อนกลับ’ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังสิ้นสุดกระบวนการ สไตรฟจะยังคงดำเนินงานภายใต้แบรนด์เดิม พร้อมวางแผนออกหุ้นเพิ่มทุนขนาดใหญ่และใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดทุน เพื่อระดมเงินไปใช้ในการซื้อบิตคอยน์
แผนควบรวมดังกล่าวคาดว่าจะนำไปสู่การออกหุ้นและตราสารหนี้มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.46 แสนล้านบาท) ซึ่งจะนำไปใช้ในการสะสมบิตคอยน์อย่างเป็นระบบ โดยทางสไตรฟระบุว่า บริษัทมีแผนลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อสร้าง ‘พอร์ตถือครองบิตคอยน์’ อย่างมีกลยุทธ์ และเป้าหมายยาวคือการสร้างผลตอบแทนสูงกว่าการถือครองบิตคอยน์เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ สไตรฟยังเตรียมเปิดทางให้นักลงทุนสามารถใช้ ‘บิตคอยน์แลกเปลี่ยนกับหุ้นของบริษัท’ ได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดภาระภาษีในการซื้อขาย และอาจกลายเป็นช่องทางใหม่ในการลงทุนสำหรับผู้ถือครองคริปโต เนื่องจากสามารถเปลี่ยนคริปโตเป็นสินทรัพย์ในตลาดทุนได้โดยไม่ต้องขายทิ้ง
ปัจจุบัน สไตรฟมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.92 แสนล้านบาท) และเพิ่งยื่นคำขอสร้างกองทุน ETF ประเภท *‘บิตคอยน์บอนด์’* ซึ่งลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกโดยบริษัทอย่าง *ไมโครสแตรทิจี(MicroStrategy)* และองค์กรอื่นที่ถือครองบิตคอยน์จำนวนมาก
การตัดสินใจของสไตรฟในการหันสู่ *กลยุทธ์บิตคอยน์แบบเชิงรุก* สร้างกระแสวิพากษ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อบริษัทมีความเชื่อมโยงทางการเมืองกับ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าอาจช่วยเร่งการขยายตัวของตลาดบิตคอยน์ในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และตอกย้ำมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำอย่างบิตคอยน์อีกด้วย
ความคิดเห็น 0