SEC สหรัฐเปลี่ยนทิศนโยบายคริปโต มุ่งเน้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแทนการฟ้องร้อง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ระบุว่า นโยบายเกี่ยวกับ *คริปโตเคอร์เรนซี* ในอนาคตจะถูกกำหนดผ่าน ‘การแจ้งให้ทราบและรับฟังความคิดเห็น’ อย่างเป็นทางการ แทนที่จะอาศัยการดำเนินคดีตามคำพิพากษาของศาลเป็นหลัก ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนทิศทางสำคัญเพื่อยกระดับความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ

เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา พอล แอทคินส์(Paul Atkins) กรรมาธิการ SEC ได้เข้าร่วมการไต่สวนของคณะอนุกรรมาธิการฝ่ายบริการทางการเงิน สังกัดคณะกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ โดยเขาระบุว่า “เราจะไม่เน้นบังคับใช้กฎหมายแบบลอยๆ แต่จะใช้กระบวนการแจ้งและรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำนโยบายที่ชัดเจนและเหมาะสม” พร้อมเสริมว่า SEC จะใช้ ‘อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่’ เพื่อกำหนดมาตรฐานสอดคล้องกับตลาดและผู้มีส่วนร่วม

แอทคินส์เป็นอดีตล็อบบี้ยิสต์ซึ่งเคลื่อนไหวในนามของอุตสาหกรรมคริปโตมาเป็นเวลานาน ก่อนก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของ SEC เป้าหมายสำคัญที่เขาวางไว้คือการสร้าง *กรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีเหตุผล* ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันที่ SEC ต้องเผชิญมานานเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของกฎระเบียบในภาคธุรกิจดังกล่าว

นโยบายที่เปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการปรับท่าทีจากช่วงที่แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ดำรงตำแหน่งประธาน SEC โดยในขณะนั้น SEC ใช้มาตรการฟ้องร้องและการเจรจาไกล่เกลี่ยกับโครงการคริปโตจำนวนมาก เพื่อแสดงอำนาจบังคับใช้ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า สร้างความไม่แน่นอนและขาดแนวทางที่เป็นรูปธรรม

แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่านโยบายใหม่นี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่ออุตสาหกรรมคริปโต แต่ *ความคิดเห็น* จากหลายฝ่ายมองว่า การเคลื่อนไหวเชิงร่างกฎหมายของ SEC เป็น *สัญญาณเชิงบวก* ที่จะเพิ่มระดับความชัดเจนและโปร่งใสในการกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐอเมริกา