เซอร์เคิล(Circle) ผู้ออกเหรียญ USDคอยน์(USDC) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ใหญ่อันดับสองของโลก เริ่มทำการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ภายใต้สัญลักษณ์ ‘CRCL’ หลังจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลามจนต้องขยายขนาดการระดมทุนล่วงหน้าหลายครั้ง
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของเซอร์เคิล หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 12 ปี โดย เจเรมี อัลแอร์(Jeremy Allaire) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซอร์เคิลได้ประกาศข่าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่า “เซอร์เคิลเริ่มต้นภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะออกแบบและสร้างระบบการเงินโลกขึ้นใหม่บนพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต”
USDคอยน์(USDC) ที่ออกโดยเซอร์เคิลนั้นเป็นรองเพียง เทเธอร์(USDT) ในแง่ของมูลค่าตามราคาตลาด โดยการเข้าตลาดหุ้นในครั้งนี้ได้รับการมองว่าเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ที่จะขับเคลื่อนทั้งการเติบโตเชิงธุรกิจของเซอร์เคิล และการยอมรับสเตเบิลคอยน์ในระบบการเงินที่เป็นทางการมากยิ่งขึ้น ความสนใจจากนักลงทุนที่สูงส่งผลให้เซอร์เคิลต้องขยายวงเงิน IPO หลายครั้งติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดต่อทิศทางธุรกิจของบริษัท
ในวันเดียวกัน เจพีมอร์แกน (JPMorgan) สร้างความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการการเงินคริปโต ด้วยการประกาศยอมรับกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลให้สามารถใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทการเงินดั้งเดิมเริ่มยอมรับคริปโตในฐานะทรัพย์สินที่มีคุณค่า
ทั้งการเข้าตลาดหุ้นของเซอร์เคิลและการตัดสินใจครั้งล่าสุดของเจพีมอร์แกนต่างเป็น ‘หมุดหมาย’ สำคัญในทิศทางการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก โดย *ความคิดเห็น* แสดงมุมมองว่าความก้าวหน้าเหล่านี้อาจสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดคริปโตในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0