เอลซัลวาดอร์ลดข้อบังคับบิตคอยน์ตามเงื่อนไข IMF เพื่อแลกเงินกู้ 1.4 พันล้านดอลลาร์

เอลซัลวาดอร์ปรับปรุงกฎหมาย ลดข้อบังคับใช้บิตคอยน์ตามข้อตกลงกับ IMF

เมื่อวันที่ 4 ตามรายงานของ Gizmodo เอลซัลวาดอร์ได้แก้ไขกฎหมายบางส่วนเพื่อลดข้อบังคับเกี่ยวกับ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ตามเงื่อนไขของ ‘กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)’ เพื่อแลกกับเงินกู้มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ รัฐสภาซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดี ‘นายิบ บูเคเล’ ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ 6 ฉบับและยกเลิกอีก 3 ฉบับ

แม้ว่าบิตคอยน์ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘สกุลเงินที่ถูกกฎหมาย’ แต่จะไม่ถูกบังคับให้ใช้งานในฐานะ ‘เงินตรา’ อีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถเลือกได้ว่าจะรับบิตคอยน์หรือไม่ และรัฐบาลเองก็จะยุติการรับภาษีหรือชำระหนี้ด้วยบิตคอยน์ นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาลดการลงทุนหรือขาย ‘ชิโว วอลเล็ต(Chivo Wallet)’ ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่รัฐบาลเปิดใช้

เอลซัลวาดอร์ได้สร้างกระแสไปทั่วโลกเมื่อประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นเงินที่ถูกกฎหมายในปี 2021 ประธานาธิบดีบูเคเลเคยชูนโยบายสร้าง 'เมืองบิตคอยน์' และโครงการขุดคริปโตด้วยพลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟเพื่อล่อใจนักลงทุน อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวเผชิญกับอุปสรรคจากสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ จนในที่สุดรัฐบาลต้องหันไปขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF

IMF เคยแสดงจุดยืนชัดเจนในการคัดค้านบิตคอยน์เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย โดยอ้างถึงความผันผวนสูงและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ในปี 2022 IMF ระบุว่า "ความเสี่ยงระยะสั้นและต้นทุนของบิตคอยน์มีมากกว่าประโยชน์ระยะยาว"

แม้บูเคเลจะยอมรับว่าการทำให้บิตคอยน์เป็นที่แพร่หลายในประเทศไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาอ้างว่าการตัดสินใจครั้งนี้ช่วยปรับภาพลักษณ์ของเอลซัลวาดอร์บนเวทีโลก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่ามีประชากรเพียง 12% เท่านั้นที่ยังใช้บิตคอยน์เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งสะท้อนถึงข้อกังขาทั้งจากภายในและภายนอกประเทศต่อแนวทางของรัฐบาล