กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ว่า ยูรี กูคนิน(Iurii Gugnin) ผู้ก่อตั้ง ‘เอวิต้าจ่าย’ (EvitaPay) แพลตฟอร์มชำระเงินด้วยคริปโตในนิวยอร์ก ถูกจับกุมในข้อหาส่งเงินกว่า 7,370 พันล้านวอน หรือประมาณ 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารรัสเซียที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรเข้าสหรัฐโดยผิดกฎหมาย พร้อมตั้งข้อหาทั้งสิ้น 22 กระทง ซึ่งรวมถึงข้อหาฉ้อโกงทางโทรคมนาคม, ฉ้อโกงธนาคาร, ฟอกเงิน และประกอบธุรกิจโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรม กูคนินถูกกล่าวหาว่าใช้บริษัทคริปโตของตนบังหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และช่วยให้ฝ่ายรัสเซียเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐได้โดยมิชอบ โดยกระบวนการดังกล่าวมีการใช้ระบบชำระเงินคริปโต ‘เอวิต้าจ่าย’ เพื่อรับเงินจากธนาคารรัสเซีย ก่อนจะโอนเข้ามายังสหรัฐผ่านโครงสร้างที่ซับซ้อน
ยิ่งไปกว่านั้น เงินเหล่านี้ยังถูกใช้ในกระบวนการลักลอบส่งออกเทคโนโลยีชั้นสูงของสหรัฐกลับไปยังรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออกและกฎหมายคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างร้ายแรง หากถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริง กูคนินอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต
กรณีนี้ตอกย้ำถึง *ความเสี่ยงของการใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ* ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐยืนยันว่าจะมีมาตรการตอบโต้เชิงรุกต่อเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคตอย่างเด็ดขาด
สหรัฐได้เพิ่มความเข้มงวดในการคว่ำบาตรรัสเซียนับตั้งแต่การรุกรานยูเครน โดยมาตรการควบคุมส่งออกต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงถูกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของสกุลเงินดิจิทัลในการหลีกเลี่ยงระบบการเงินแบบดั้งเดิมจึงยังคงอยู่ในระดับสูง *ความคิดเห็น: กรณีนี้แสดงให้เห็นว่า การกำกับดูแลคริปโตยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนในเวทีระหว่างประเทศ*
ความคิดเห็น 0