รัฐคอนเนตทิคัตออกกฎหมายฉบับใหม่ห้ามไม่ให้รัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นลงทุนหรือถือครองบิตคอยน์(BTC)และคริปโตทั้งหมด โดยกฎหมาย HB7082 ที่ผ่านสภาสูงและสภาล่างอย่างเป็นเอกฉันท์นี้ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น กฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘พระราชบัญญัติการควบคุมสกุลเงินเสมือนและการลงทุนของภาครัฐ’ ยังขยายเงื่อนไขควบคุมไปสู่ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลภายในรัฐเพิ่มด้วย
นอกจากการห้ามถือครอง บทบัญญัติของกฎหมาย HB7082 ยังระบุว่าผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีที่ใช้งานแอปจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโต จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร ขณะที่ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต้องปฏิบัติตามแนวทางป้องกันการฟอกเงิน (AML) ตามมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้น
ความเคลื่อนไหวของคอนเนตทิคัตครั้งนี้แตกต่างจากทิศทางของหลายรัฐในสหรัฐฯ ที่กำลังเดินหน้าเตรียมจัดตั้ง ‘เงินสำรองบิตคอยน์เชิงยุทธศาสตร์’ (Strategic Bitcoin Reserve – SBR) เพื่อรองรับนโยบายภาคการเงินในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะผลักดัน SBR หากชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ทำให้รัฐต่างๆ อย่างเท็กซัสและลุยเซียนาก็เริ่มออกและพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีของลุยเซียนา รัฐนี้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์(AI), บล็อกเชน และคริปโต พร้อมระบุว่า “ชาวอเมริกันหนึ่งในห้าคนถือครองสกุลเงินดิจิทัล” ซึ่งจะต้องพิจารณาทั้ง ‘ประโยชน์’ และ ‘ความท้าทาย’ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน
‘ความคิดเห็น’: การออกกฎหมายของคอนเนตทิคัตถือว่าเป็นการออกนโยบายที่ตรงกันข้ามกับกระแสหลักในประเทศ และอาจส่งผลต่อทิศทางของการกำหนดนโยบายคริปโตในระดับรัฐบาลกลางในระยะยาว ความเห็นต่างเกี่ยวกับการลงทุนในบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ จึงยังคงเป็นประเด็นร้อนที่รอวันปะทุในการถกเถียงระดับชาติ
ความคิดเห็น 0