ผู้บริหาร CFPB ลาออก ชี้การปฏิรูปภายใต้ทรัมป์บั่นทอนภารกิจคุ้มครองผู้บริโภค

ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงินของสหรัฐฯ(CFPB) ได้ลาออก พร้อมเปิดเผยว่าการปรับโครงสร้างขององค์กรภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ ‘บั่นทอน’ ภารกิจหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างรุนแรง

คารา ปีเตอร์สัน(Cara Petersen) รักษาการผู้อำนวยการ CFPB ซึ่งเพิ่งลาออกไม่นานนี้ ได้ส่งอีเมลอำลาเพื่อนร่วมงาน โดยระบุว่า การปฏิรูปล่าสุดขององค์กรที่ดำเนินการภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ส่งผลให้หน้าที่ในการปกป้องผู้บริโภคจากการเอารัดเอาเปรียบทางการเงิน “แทบจะไร้ความหมาย” และกล่าวว่า “แม้ฉันจะเคยทำงานภายใต้นโยบายของผู้บริหารหลายคน แต่ไม่เคยเห็น CFPB ถูกทำให้ไร้พลังขนาดนี้มาก่อน”

ปีเตอร์สันเปิดเผยว่า กระบวนการปรับโครงสร้างที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เช่น ความพยายามในการปลดพนักงานมากถึง 90% การถอนฟ้องผู้กระทำผิดด้านการเงิน และการยกเลิกข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไปแล้ว จุดยืนของเธอคือสิ่งเหล่านี้ได้ *ลดบทบาทของหน่วยงานลงอย่างชัดเจน* และเปิดช่องให้ผู้กระทำผิดสามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดได้

CFPB ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 โดยมีภารกิจหลักคือ *ปกป้องผู้บริโภคในภาคบริการทางการเงิน* และสร้างความโปร่งใสในระบบการเงินของสหรัฐฯ แต่หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง แนวทางขององค์กรกลับถูกเร่งให้ลดขนาดลง พร้อมกับคลายกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงต่อต้านจากภายในองค์กรจำนวนมาก

การตัดสินใจลาของปีเตอร์สันครั้งนี้ กลายเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ความไม่พอใจภายใน CFPB กำลังเดินทางมาถึงจุดวิกฤติ พนักงานในหน่วยงานให้ความเห็นว่า *ขาดบุคลากรสำคัญอาจสร้างช่องว่างในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคอย่างรุนแรง* ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นต่อองค์กร และทิศทางในอนาคตของ CFPB จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดการเงินและหน่วยงานกำกับดูแลต้องจับตาอย่างใกล้ชิด