ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของริปเปิล(XRP) กำลังได้รับความสนใจจากตลาดหลังมีการโอนเหรียญจำนวนมากเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ของสหรัฐอย่าง ‘คอยน์เบส’(Coinbase) โดยมีปริมาณการโอนประมาณ 27 ล้านโทเคน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 58 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,120 ล้านบาท) การโอนครั้งนี้นับเป็นความเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนที่มีการโอนมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท)
ตามข้อมูลจาก Whale Alert บริการติดตามธุรกรรมคริปโต พบว่าการโอนดังกล่าวมาจากกระเป๋าเงินที่ไม่ระบุตัวตน โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งการที่ XRP ส่วนใหญ่ถูกถือโดยนักลงทุนรายใหญ่หรือกระเป๋าองค์กร ทำให้ตลาดต่างจับตาว่าแรงจูงใจเบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คืออะไร
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน บริษัทริปเปิลเคยตกเป็นประเด็นวิจารณ์หลังมีการเคลื่อนย้าย XRP มูลค่ารวมถึง 498 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,600 ล้านบาท) ซึ่งไม่สอดคล้องกับกำหนดการปลดล็อกโทเคนในระบบเอสโครว์ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแผนภายในหรือกลยุทธ์เฉพาะบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการครั้งนั้น
ในขณะนี้ XRP ซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 2.16 ดอลลาร์ (ราว 75 บาท) และมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 127,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท) แม้อัตราผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจะอยู่ราว 3% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ แต่ก็เริ่มได้รับความสนใจใหม่จากบริษัทขนาดเล็กที่นำ XRP ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน อย่างไรก็ตามก็ยังมีความกังวลว่าแนวโน้มเหล่านี้อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราวเพื่อพยุงราคาตลาด
ในอีกด้านหนึ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล แบรด การ์ลิงเฮาส์ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยระบุว่า XRP มีศักยภาพจะครองส่วนแบ่งตลาดการชำระเงินข้ามพรมแดนที่เดิมถูกครองโดย SWIFT ได้มากถึง 14% ขณะที่หลายบริษัทจัดการกองทุนรวม รวมถึงแฟรงคลินเทมเพิลตัน กำลังพัฒนา ETF ที่อ้างอิง XRP แบบสปอต ซึ่งสร้างแรงหนุนเชิงบวกให้กับตลาด
อย่างไรก็ตาม การอนุมัติ ETF ยังไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ และในช่วงเวลานี้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคและกฎระเบียบจะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางของ XRP ขณะที่นักลงทุนควรจับตามองผลกระทบของการโอนเหรียญครั้งใหญ่นี้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างใกล้ชิด ‘XRP’ ยังคงเป็นคำสำคัญที่ตลาดไม่อาจมองข้ามในปีนี้
ความคิดเห็น 0