การเผาเหรียญริปเปิล(XRP) ใกล้แตะระดับ 14 ล้านเหรียญ คาดเป็นสัญญาณหนึ่งของโมเดลเศรษฐกิจแบบเงินฝืดของเครือข่าย XRP เลเชอร์กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 เว็บไซต์ข้อมูลบล็อกเชน XRPสแกน(XRPScan) รายงานว่า ปริมาณ XRP ที่ถูกเผาไปทั้งหมดอยู่ที่ 13,985,106 เหรียญ แม้ตัวเลขนี้จะถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณทั้งหมดของเหรียญที่มีอยู่ แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็น ‘หมุดหมายสำคัญ’ ต่อเป้าหมายระยะยาวเรื่องเสถียรภาพและประสิทธิภาพของเครือข่าย
กลไกการเผาของ XRP ของเครือข่าย XRP เลเชอร์ เป็นการเผาแบบ *อัตโนมัติและต่อเนื่อง* โดยคิดค่าธรรมเนียมจากทุกธุรกรรมในรูปแบบของ XRP และทำลาย XRP เหล่านั้นทันที แตกต่างจากโมเดลซื้อคืน(Buyback) หรือการเผาเหรียญนำโดยชุมชน ซึ่งมักเป็นเหตุการณ์เฉพาะจุด กลไกนี้ช่วยควบคุมสแปมหรือธุรกรรมไร้สาระจากผู้ไม่หวังดีได้อีกทาง *ความคิดเห็น*: โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ถูกฝังเข้าไปในระบบถือว่าช่วยเสริมความยั่งยืนให้กับระบบแบบไร้ตัวกลางได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ระบบนิเวศของ XRP เลเชอร์เองก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่น่าจับตามอง โดยในงาน XRPL Apex ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลายโครงการและพันธมิตรใหม่ได้ถูกเปิดเผย ที่สะดุดตาที่สุดคือการประกาศ *บูรณาการเหรียญ USDC เข้าสู่ XRP เลเชอร์อย่างเป็นทางการ* ส่งผลให้ผู้ใช้งาน, นักพัฒนา และสถาบันต่าง ๆ สามารถนำ *USDC ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีการกำกับดูแลสูงสุดในโลก* ไปใช้ในแอปพลิเคชันการเงินของตนเองได้บนแพลตฟอร์มของ XRP เลเชอร์
อีกความคืบหน้าที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวกองทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแบบระยะสั้นภายใต้ชื่อ ‘OUSG’ ของบริษัทออนโดไฟแนนซ์(Ondo Finance) บนเครือข่าย XRP เลเชอร์ในรูปแบบโทเคน โดยกระบวนการสร้างและไถ่ถอนจะดำเนินผ่านเหรียญสเตเบิลคอยน์ RLUSD ซึ่งออกโดยริปเปิลเอง คาดว่าการดำเนินการนี้จะเป็นอีกแรงผลักดันให้กับโครงสร้างการเงินแบบไร้ศูนย์กลางภายในเครือข่าย
ด้านราคาของ XRP ในตลาดแม้ปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2.19 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,042 วอน (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเกาหลีใต้) โดยแนวโน้มในตลาดยังคงผันผวน หลายฝ่ายแสดงทั้งความคาดหวังและความกังวล
โดยรวม เหตุการณ์การเผาเหรียญที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงโมเดลเศรษฐกิจของ XRP ที่เป็น ‘เงินฝืด’ และยั่งยืน ขณะเดียวกัน การขยายตัวของระบบนิเวศ ผ่านการเชื่อมต่อกับสินทรัพย์ในโลกจริงและสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการควบคุม ยังแสดงให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตสองด้าน ทั้งในแง่เทคโนโลยีและการใช้งานในชีวิตจริงผู้ใช้
ความคิดเห็น 0