บิตคอยน์(BTC) กลับมา *ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง* หลังจากปรับตัวลงเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนอันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยสามารถพุ่งทะลุระดับ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.48 ล้านบาท) ทันทีหลังตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการ สร้างความคึกคักให้กับ *ภาพรวมตลาดคริปโต* ตั้งแต่ต้นสัปดาห์
ความสนใจหลักของนักลงทุนในตอนนี้จดจ่ออยู่ที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้ความกังวลด้าน *เงินเฟ้อ* ที่สหรัฐกลับมาอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของเฟดในสัปดาห์นี้จึงอาจมีผลกระทบต่อราคา *สกุลเงินดิจิทัล* อย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในตลาดบิตคอยน์ก็แสดงถึง *แนวโน้มที่น่าสนใจ* โดยนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยต่างยังคงใช้ ‘กลยุทธ์ถือครอง’ แทนที่จะขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของความมั่นใจในระยะยาว ในฝั่งตลาดอนุพันธ์ ราคาฟิวเจอร์สบิตคอยน์ยังคงต่ำกว่าราคาในตลาดสปอต เป็นภาวะที่เรียกว่า ‘*แบควอร์เดชัน*’ ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจมีการ ‘*ชอร์ตสควีซ*’ หรือการบีบบังคับให้ผู้ที่ถือชอร์ตต้องซื้อคืนในราคาที่สูงขึ้น
ในแง่ของ *การวิเคราะห์เชิงเทคนิค* ยังไม่พบสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นนี้ใกล้จะสิ้นสุด นักวิเคราะห์บางรายยังคงมองเป้าหมายที่ระดับ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.78 ล้านบาท) สะท้อนให้เห็นว่า *ภาวะตลาดกระทิง* ยังไม่ได้จางหายไป
อีกหนึ่งจุดสังเกตสำคัญคือ ราคาปิดของบิตคอยน์ในระดับ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.46 ล้านบาท) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับ *แนวรับทางจิตวิทยา* ที่สำคัญ *Crypto Tony* นักเทรดคริปโตชื่อดังแสดงความเห็นผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า “การยืนเหนือระดับ 104,500 ดอลลาร์ได้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ด่านราคานี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญ”
ในขณะที่ *ทรัมป์* ยังคงเดินหน้าแสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยระดับมหภาคและสัญญาณภายในตลาดก็เริ่มผสมผสานกันอย่างซับซ้อน ทำให้สัปดาห์นี้ถูกจับตาในฐานะหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนด *ทิศทางต่อไปของบิตคอยน์*
ความคิดเห็น 0