อานาโตลี ยาโคเวนโก ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา(SOL) ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ‘ไม่เห็นด้วย’ กับแนวโน้มของโครงการอัลท์คอยน์ที่เริ่มถือครองบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์ร่วมของโครงการ โดยเขาระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า “มัน *ไร้สาระสิ้นดี* ทำไมทีมต้องซื้อและถือบิตคอยน์แทนที่แต่ละคนจะซื้อเองได้” พร้อมเปรียบเปรยว่าเป็นการแบกรับต้นทุนที่ไม่จำเป็น
ยาโคเวนโกยังเสนอแนวทางว่า โครงการต่าง ๆ ควรถือครองเฉพาะ *สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ* เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถครอบคลุมต้นทุนดำเนินงานได้ราว 36 เดือน แทนการซื้อบิตคอยน์ เขาย้ำว่า นี่คือวิธีบริหารสินทรัพย์ที่ทั้งโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากกว่า
คำแถลงนี้เกิดขึ้นภายหลัง ชาร์ลส ฮอสกินสัน ผู้ร่วมก่อตั้งคาร์ดาโน(ADA) เสนอดำเนินแผนเปลี่ยนทรัพย์สินของโปรเจกต์เป็นบิตคอยน์และสินทรัพย์เสถียร มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,390 ล้านบาท โดยหวังนำผลตอบแทนที่ได้กลับมาซื้อคืน ADA อีกครั้ง แผนนี้ ฮอสกินสันเชื่อว่า จะช่วย *เสริมสร้างเสถียรภาพ* ให้กับระบบนิเวศของคาร์ดาโนในระยะยาว
แต่แนวทางดังกล่าวก็เจอแรงต้านจากหลายฝ่าย เจฟฟ์ พัค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของบิตไวส์ ให้ความเห็นว่า “ไม่คิดเลยว่าในปี 2025 โครงการอัลท์คอยน์จะเลือกเก็บ BTC แทนเหรียญของตัวเอง” เขาตั้งคำถามว่า ต่อไปโครงการจะยังเชื่อมั่นในโทเคนของตัวเองอยู่หรือไม่ หากเลือกถือครอง BTC เป็นทรัพย์สินหลัก
ขณะที่ฮอสกินสันเคยวิจารณ์ว่า บิตคอยน์ไม่ได้เป็น *บล็อกเชนเดียวที่มีคุณค่าการจัดเก็บ* ที่มั่นคงอีกต่อไป โดยตั้งใจจะเปิดพื้นที่ให้เทคโนโลยีอื่น ๆ เข้ามามีบทบาท ไม่ใช่ปล่อยให้ ‘แม็กซิมัลลิสต์’ ของบิตคอยน์ผูกขาดความน่าเชื่อถือแต่เพียงผู้เดียว
กรณีนี้จึงสะท้อนบทสนทนาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการคริปโต กับคำถามว่า อะไรคือหนทางที่เหมาะสมในการบริหารเงินทุนของโครงการอัลท์คอยน์ ระหว่างแนวคิดแบบกระจายศูนย์อุดมคติ และการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในโลกความเป็นจริง
ความคิดเห็น 0