ศึกริปเปิล(XRP) vs SEC ยังยืดเยื้อ จับตาศาลสหรัฐตัดสินชี้ชะตาอุตสาหกรรมคริปโต

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างริปเปิล(XRP)กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)ยังคงคาราคาซัง ส่งผลให้ ‘ความไม่แน่นอน’ ปกคลุมอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม แม้ว่าทรัมป์เพิ่งแสดงจุดยืนสนับสนุนด้วยการรวม XRP ไว้ในพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนตัว แต่ศาลยังไม่มีทีท่าเร่งรัดการตัดสิน ส่งผลให้ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จอห์น ดีน(John Deaton) ทนายผู้ให้การสนับสนุนริปเปิลอย่างชัดเจน ระบุว่า “ศาลมีแนวโน้มสูงที่จะรับคำร้องขอยุติคดีจากฝ่ายริปเปิล” อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าความเข้มงวดตั้งแต่แรกของ SEC และข้อจำกัดทางกฎหมายในการเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน ทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ เป็นไปช้า พร้อมประเมินว่าผู้พิพากษาแอนาลิซา ตอร์เรส(Analisa Torres) มีโอกาสมากกว่า 70% ที่จะตัดสินเข้าข้างริปเปิล แต่จะต้องมี ‘สถานการณ์พิเศษ’ ตามกฎหมายจึงจะสามารถแก้ไขคำพิพากษาได้

ในปัจจุบัน SEC เรียกร้องค่าปรับจากริปเปิลสูงถึง 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,739 พันล้านวอน) แต่ทางบริษัทได้เสนอข้อตกลงลดลงเหลือ 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 695 พันล้านวอน) ขณะที่คณะลูกขุนยังคงพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึง ‘ความเป็นธรรมโดยรวม’ และ ‘ผลกระทบต่อบรรทัดฐานทางกฎหมายในอนาคต’

ดีนเน้นว่า คดีที่ยังไม่จบนี้เป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจของริปเปิล และกล่าวว่า “ธนาคารและสถาบันการเงินบางแห่งอาจเลือกใช้บริการจากคู่แข่งอย่างเซอร์เคิล แทนที่จะรอความชัดเจนจากริปเปิล”

ด้านการเมืองเองก็กำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญในคดีนี้ ดีนคาดว่าหากทรัมป์กลับมามีอำนาจ ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐต่อคริปโตจะ ‘อ่อนลง’ ในเชิงนโยบาย แต่หากนักการเมืองสายต่อต้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเอลิซาเบธ วอร์เรนกลับมามีบทบาทมากขึ้น กฎระเบียบทางการเงินอาจกลับมาเข้มงวดได้อีกครั้ง

ดีนยังมีความเห็นวิจารณ์ว่าทีมกฎหมายของริปเปิลควรให้ความสำคัญกับการเน้นประโยชน์สาธารณะ รวมถึงความเสียหายของนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น โดยเขาชี้ว่า “มีผู้ลงทุน XRP กว่า 75,000 คน ยื่นความเห็นต่อศาล แต่ทางฝั่งริปเปิลกลับใช้ประเด็นนี้ได้ไม่เต็มที่”

แบรด การ์ลิงเฮาส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ทีมกฎหมายจะมีท่าทีเชิงบวก แต่เขาเองยังรู้สึก ‘ไม่สบายใจ’ กับความยืดเยื้อของคดี ดีนกล่าวเสริมว่า ผู้พิพากษาตอร์เรสอาจมีเจตนาไม่ต้องการให้เกิดการอุทธรณ์ที่ไม่จำเป็น และจะเร่งปิดคดีเพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง ‘ทรัพยากรทางศาล’ แต่ก็มองว่านี่ไม่ใช่ ‘การตัดสินใจที่ง่าย’

การต่อสู้ระหว่างริปเปิลและ SEC ครั้งนี้อาจกลายเป็น ‘บรรทัดฐาน’ สำคัญของแนวทางกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐ หากศาลตัดสินให้ริปเปิลชนะ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า บรรดาบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลจะอยู่ใน ‘ตำแหน่งที่ได้เปรียบ’ มากยิ่งขึ้นในการเผชิญหน้ากับ SEC ต่อไป