ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในสัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายนยังคงแสดงสัญญาณ ‘ความมั่นคง’ โดยมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.10% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แตะระดับ 3.32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,618.8 ล้านล้านวอน) ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันก็เพิ่มขึ้นถึง 15.94% อยู่ที่ 89,620 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,245.2 ล้านล้านวอน) ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ยังคงอยู่ที่ระดับกลางที่ *50* สะท้อนภาวะ ‘เป็นกลาง’ ของจิตวิทยาตลาด
ในบรรยากาศที่ *นักลงทุนสถาบัน* ยังเข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง อีเธอเรียม(ETH) กลายเป็นผู้นำท่ามกลางกระแสขาขึ้น แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) ด้านผลตอบแทน ส่วนริปเปิล(XRP) ก็เริ่มได้รับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับคดีความกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) เริ่มมีภาพชัดเจน แนวโน้มราคาสามสินทรัพย์หลักทั้งบิตคอยน์ อีเธอเรียม และริปเปิล จึงกลายเป็นศูนย์กลางของความเคลื่อนไหวประจำสัปดาห์นี้
*บิตคอยน์(BTC)* ยังคงอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ 107,113 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.489 ล้านบาท) แม้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะปรับขึ้นเล็กน้อยเพียง 1.02% แต่ก็มีความพยายามที่จะทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.486 ล้านบาท) จากปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้นราว 11% หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.459 ล้านบาท) ได้มั่นคง โอกาสในการพุ่งขึ้นสู่เป้าหมายถัดไปที่ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.529 ล้านบาท) ก็มีความเป็นไปได้สูง นักวิเคราะห์บางรายมองว่า หาก BTC ยืนเหนือระดับ 106,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.4869 ล้านบาท) ได้อย่างต่อเนื่อง จะเปิดแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่
*อีเธอเรียม(ETH)* แสดงความแข็งแกร่งแบบชัดเจนจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุน ETF ที่ทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 แสนล้านวอน) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 2,627 ดอลลาร์ (ประมาณ 364,000 บาท) เพิ่มขึ้น 3.33% เมื่อเทียบกับบิตคอยน์ ในเชิงเทคนิค ราคากำลังพยายามทะลุกรอบบนของแนวโน้มไซด์เวย์หลัก หากฝ่าด่านสำคัญที่ 2,633 ดอลลาร์ (ประมาณ 365,000 บาท) ได้สำเร็จ การดีดตัวไปยัง 2,800 ดอลลาร์ (ราว 390,000 บาท) ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตาม หากหลุดระดับแนวรับสำคัญที่ 2,550 ดอลลาร์ (ประมาณ 355,000 บาท) อาจเกิดแรงขายจนนำไปสู่การย่อตัวสู่ 2,450 ดอลลาร์ (ประมาณ 341,000 บาท)
*ริปเปิล(XRP)* ราคาเคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 2.18 ดอลลาร์ (ประมาณ 303 บาท) เพิ่มขึ้น 1.60% แม้ยังไม่สามารถฝ่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ที่อยู่ที่ 2.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 317 บาท) ได้ แต่ก็ยังรักษาระดับเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1.91 ดอลลาร์ (ประมาณ 265 บาท) ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง แนวรับทางเทคนิคที่ 2.01 ดอลลาร์ (ประมาณ 279 บาท) ยังคงมั่นคง ซึ่ง *จำกัดแรงกดดันด้านลบ* ได้ในระยะสั้น ปัจจัยสำคัญที่สุดยังคงเป็นการตัดสินคดีของผู้พิพากษาแอนาลิซา ตอร์เรส (Analisa Torres) ระหว่างริปเปิลและ SEC ซึ่งอาจส่งผลกระทบทันทีต่อทิศทางราคา หากสามารถปิดตลาดเหนือ 2.45 ดอลลาร์ (ประมาณ 340 บาท) ได้ มีโอกาสที่จะเกิดคลื่นขาขึ้นไปแตะระดับจิตวิทยาที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 417 บาท)
‘ความเห็น’: ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของตลาดในสัปดาห์นี้คือ ‘เงินทุนจาก ETF’ ที่ยังหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลลัพธ์จากคดี SEC กับริปเปิลก็ยังเป็นปัจจัยพลิกเกมที่นักลงทุนจับตามองอย่างใกล้ชิด สินทรัพย์หลักทั้งสาม—บิตคอยน์ อีเธอเรียม และริปเปิล—ต่างตอบสนองต่อสภาวะทางการเงิน เทคโนโลยี และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างเฉียบคม นักลงทุนจึงควรติดตาม ‘กราฟรายสัปดาห์’ และแนวโน้มปริมาณซื้อขายอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางต่อไป
ความคิดเห็น 0