Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) เนื้อหอม! ภาคธุรกิจเร่งสะสมพุ่งแรงในปี 2025 นำโดยไมโครสเตรทจี(MSTR)

ความต้องการบิตคอยน์(BTC)จากภาคธุรกิจในปี 2025 พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอิทธิพลของไมโครสเตรทจี(MSTR)ยังคงเหนียวแน่นในฐานะผู้นำตลาด แต่บรรดาธุรกิจขนาดกลางและเล็กเริ่มเร่งเครื่องเข้าสู่สนามแข่ง ส่งผลให้โครงสร้างของตลาดคริปโตเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่กลยุทธ์ถือครองบิตคอยน์ในฐานะส่วนหนึ่งของสินทรัพย์สำรองเริ่มกลายเป็นเรื่องจริงจังมากขึ้นในภาคธุรกิจทั่วโลก

รายงานระบุว่า ไมโครสเตรทจีถือครองบิตคอยน์อยู่ที่ 582,000 BTC หรือคิดเป็นประมาณ 2.771% ของอุปทานรวมทั้งหมด ซึ่งมากกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่างมาราธอน ดิจิทัล โฮลดิงส์(MARA) ซึ่งมีอยู่ 49,179 BTC อย่างทิ้งห่าง อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่า ศักยภาพในการซื้อเพิ่มของไมโครสเตรทจีขึ้นอยู่กับความสามารถในการออกพันธบัตร เพราะที่ผ่านมาบริษัทเลือกใช้เงินทุนจากการระดมทุนภายนอก แทนที่จะใช้งบภายใน ดังนั้น หากสภาวะในตลาดทุนเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์ถือครองของบริษัทนี้อาจต้องถูกปรับตามไปด้วย

ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับแนวโน้มขาขึ้นหลัก โดยโมเดลคาดการณ์ราคาชี้ว่าราคาเฉลี่ยในปี 2030 อาจแตะระดับ 336,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 46.7 ล้านบาท) และในปี 2035 อาจพุ่งสูงถึง 998,000 ดอลลาร์ (ราว 138.7 ล้านบาท) ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นถึง 61.3% และยังคงเพิ่มขึ้นอีก 3.4% ภายใน 30 วันล่าสุด โดยล่าสุดอยู่ที่ 107,036 ดอลลาร์ (ราว 14.8 ล้านบาท)

ท่ามกลางกระแสราคาที่ร้อนแรง บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากเร่งสะสมบิตคอยน์อย่างจริงจัง เซมเลอร์ ไซเอนติฟิก(SMLR) เพิ่งเพิ่มการถือครองอีก 1,424 BTC ในปีนี้ ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 3,808 BTC หากบริษัทสามารถยุติข้อพิพาทมูลค่า 29.75 ล้านดอลลาร์ (ราว 413 ล้านบาท) กับผู้ขายอุปกรณ์ QuantaFlo ได้ อาจกลายเป็นแรงหนุนต่อมูลค่าของบริษัท

ในด้านอื่น ALTBG ถือครองบิตคอยน์ราว 620 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 66.09 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 918 ล้านบาท) โดยตลาดคาดว่าอาจมีการเข้าซื้อเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ขณะเดียวกัน บริษัทญี่ปุ่นอย่างเมตาแพลนเน็ต ซึ่งมีการถือครองอยู่ที่ 8,888 BTC (ราว 9,475 ล้านบาท) กลายเป็นองค์กรขนาดกลางที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลว่ามูลค่าของบริษัทอาจถูกประเมินไว้สูงเกินจริง จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง

ส่วนน้องใหม่อย่างสมาเตอร์เว็บ(SWC) ถือครองอยู่ที่ 10.6 BTC หรือประมาณ 1.13 ล้านดอลลาร์ (ราว 15.7 ล้านบาท) โดยมีอัตราผลตอบแทนรายวันจาก BTC สูงถึง 9.6% แต่ถ้าราคาบิตคอยน์ชะลอตัว การเติบโตของบริษัทอาจแปรผกผันอย่างรวดเร็ว

รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการสะสมบิตคอยน์ของบริษัทเหล่านี้ มักเคลื่อนไหวสัมพันธ์กันกับราคาหุ้นของตน ซึ่ง ‘เน้น’ ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างตลาดหุ้นกับตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีสัดส่วนการถือครองสูงแต่มีช่วงเวลาของการกำหนดมูลค่ากิจการและการปรับตัวของราคาหุ้นช้า (DTC) อาจเปราะบางต่อความสนใจที่มากเกินควร และถ้าชะลอการเข้าซื้อ อาจเกิดแรงขายในตลาดหุ้นตามมา

นักลงทุนจึงควรหลีกเลี่ยงการเทเงินในหุ้นที่ดูเหมือนจะถูกประเมินไว้สูง และให้ความสำคัญกับ ‘การถือครองบิตคอยน์จริง’ ผสานกับ ‘มูลค่าทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง’ โดยใช้เกณฑ์วิเคราะห์หลักอย่าง mNAV, ค่า DTC และตารางการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม

หากบริษัทสามารถผสมผสานกลยุทธ์การถือครองบิตคอยน์เข้ากับแนวทางการบริหารสินทรัพย์ที่รอบคอบได้อย่างลงตัว นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะผลักดัน ‘อุปสงค์บิตคอยน์จากภาคธุรกิจ’ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้บทบาทของบริษัทในตลาดคริปโตขยายตัวแบบก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1