สวีเดนแนะประชาชนพกเงินสด รับมือภัยไซเบอร์ หลังกังวลรัสเซียโจมตีระบบดิจิทัล

รัฐบาลสวีเดนเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนกลับมาใช้เงินสดอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลด้าน ‘ความมั่นคงทางไซเบอร์’ ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งกับรัสเซีย โดยประเทศในแถบสแกนดิเนเวียอย่างฟินแลนด์และนอร์เวย์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย ต่างเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงของสงครามในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะในรูปแบบของ *สงครามลูกผสม(hybrid warfare)* และสวีเดนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เมื่อวันที่ 24 เดอะการ์เดียนรายงานว่า สวีเดนมีความกังวลอย่างมากต่อภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจมาจากรัสเซีย โดยเฉพาะการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขื่อนหรือโรงไฟฟ้า ซึ่งหากถูกกระทบ อาจส่งผลต่อ *ระบบชำระเงินดิจิทัล* โดยตรง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลสวีเดนจึงออกคำแนะนำอย่างเป็นทางการให้ประชาชน *ถือเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน*

สวีเดนเคยถูกยกให้เป็นตัวอย่างของ ‘สังคมไร้เงินสด’ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ด้วยระบบชำระเงินดิจิทัลที่ฝังรากลึกในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ดี ความมั่นคงในระบบการเงินแบบศูนย์รวมกลับกลายเป็นจุดอ่อนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ‘เงินสด’ จึงได้รับการยกให้เป็น *ตัวเลือกสำรองที่เสถียร* ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้เมื่อระบบดิจิทัลล่ม

บิทาลิก บูเทอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียของเขาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมว่า “เหตุผลที่ประเทศแถบสแกนดิเนเวียเริ่มถอยห่างจากนโยบาย ‘สังคมไร้เงินสด’ เป็นเพราะตระหนักได้ว่าระบบชำระเงินส่วนกลางนั้นมีความเปราะบางเกินไป” พร้อมทั้งเน้นว่า “เงินสดยังคงจำเป็นในฐานะทางเลือกสำรองที่ไม่ควรถูกมองข้าม”

มาตรการนี้ของสวีเดนไม่เพียงสะท้อนถึงความรอบคอบในยุคที่ *ระบบการเงินดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว* เท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นว่า ในโลกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางเทคโนโลยี ‘เงินสด’ ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่เก่าแก่ที่สุด กำลังกลับมาได้รับการยอมรับอีกครั้งในฐานะ *เส้นทางลัดสู่ความมั่นคง* ในยามจำเป็น