ธนาคารอเมริกา(Bank of America) หนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำของสหรัฐฯ ได้ยกระดับมุมมองต่อบิตคอยน์(BTC) อย่างมีนัยสำคัญ โดยในรายงานวิจัยล่าสุด ธนาคารได้จัดให้ *บิตคอยน์* อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกเทียบเท่าการพิมพ์หนังสือแบบเลตเตอร์เพรส และรถยนต์ฟอร์ด โมเดล T การเปรียบเทียบนี้สะท้อนความเชื่อว่า บิตคอยน์คือหนึ่งใน *นวัตกรรมทรงพลังและสร้างผลกระทบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่*
ธนาคารอเมริกาได้จัดอันดับบิตคอยน์ให้เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นสัญลักษณ์ของศตวรรษที่ 21 ควบคู่กับโซเชียลมีเดีย, ไอโฟน และปัญญาประดิษฐ์(AI) ซึ่งเป็นท่าทีที่บ่งชี้ว่าธนาคารมองบิตคอยน์เป็นมากกว่าสินทรัพย์ทางการเงิน แต่เป็นการก้าวกระโดดเชิงเทคโนโลยีที่สำคัญ *ความคิดเห็น*: นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนเชิงทัศนคติของโลกการเงินดั้งเดิมที่มีต่อคริปโตอย่างชัดเจน
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ท่าทีนี้ของธนาคารอเมริกาไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2013 ธนาคารเคยรายงานเตือนว่าคริปโตมี ‘ศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล’ ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นยุคที่โลกการเงินโดยรวมมีท่าทีระวังต่อบิตคอยน์ ทำให้มุมมองเชิงบวกของธนาคารอเมริกาในช่วงนั้นถือว่าผิดขนบของวงการ
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารอเมริกาได้แสดงจุดยืนที่ต่อเนื่องโดยการจดสิทธิบัตรกว่า *หลายร้อยรายการ* ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน อีกทั้งยังมีความพยายามผสานเทคโนโลยีคริปโตเข้าในผลิตภัณฑ์ทางการเงินของตน นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดเผยว่าธนาคารลงทุนในกองทุน ETF ที่อิงกับบิตคอยน์ แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคาร บรายอัน มอยนิฮาน(Brian Moynihan) ยังเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมกราคมว่า วงการการเงินควรแยกแยะระหว่างสเตเบิลคอยน์และคริปโตชนิดอื่น พร้อมชี้ว่าอุตสาหกรรมนี้อาจจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดคริปโตในด้านของการทำธุรกรรมในอนาคต ขณะที่ในเดือนมีนาคม เขาได้แย้มถึงแผนการอาจร่วมออกสเตเบิลคอยน์กับพันธมิตร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการแข่งขันกับสตาร์ทอัพคริปโตที่กำลังเติบโต
รายงานฉบับล่าสุดของธนาคารอเมริกาไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงความชื่นชมต่อบิตคอยน์ แต่สะท้อนถึง ‘การเปลี่ยนผ่านเชิงยุทธศาสตร์’ ที่แท้จริง นักลงทุนระดับโลกและตลาดคริปโตต่างจับตาท่าทีใหม่นี้อย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มมองบิตคอยน์เป็น *ไอคอนแห่งนวัตกรรม* แทนที่จะเป็นแค่ ‘สินทรัพย์เก็งกำไร’ การเข้าสู่วงจรเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของบิตคอยน์อาจไม่ใช่แค่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป
ความคิดเห็น 0