ศึกกฎหมายริปเปิล(XRP)-SEC เข้าสู่จุดเปลี่ยน ก่อนศาลชี้ชะตา 16 มิ.ย.นี้

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างบริษัทริปเปิล และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังครบกำหนดส่งเอกสารหลักในการพิจารณาคดี ส่งผลให้บรรยากาศภายในชุมชนผู้ถือครองริปเปิล(XRP) เต็มไปด้วย ‘ความตึงเครียด’ แม้ยังไม่มีคำแถลงหรือยืนยันการรับเอกสารจากศาลอย่างเป็นทางการ แต่การยื่นเอกสารครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของการพิจารณาคดีในระยะต่อไป

ตามรายงานจาก ‘โกรก’ (Grok) เทคโนโลยีผู้ช่วย AI ระบุว่า ผลสรุปสำคัญ เช่น รายงานการอัพเดตหรือคำตัดสินจากศาล อาจมีความเคลื่อนไหวในวันที่ 16 มิถุนายน (เวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากกระบวนการทำงานของศาลสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลานานตามมาตรฐาน อาจทำให้ผลการตัดสินถูกเลื่อนออกไปถึงวันที่ 19 มิถุนายน หรือยาวไปถึงช่วงเดือนสิงหาคมก็เป็นได้

ท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าว ราคาของริปเปิล(XRP) ยังคงแสดง ‘ความแข็งแกร่ง’ โดยภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พุ่งขึ้นกว่า 7% ตามแนวโน้มขาขึ้นของตลาดคริปโตในวงกว้าง ทั้งบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ XRP นั้น โดดเด่นเป็นพิเศษจากอัตราการฟื้นตัวที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ปัจจุบัน XRP ซื้อขายอยู่ราว 2.31 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,211 บาท) ซึ่งอยู่เหนือแนวรับในช่วง 2.10–2.25 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,919–3,128 บาท) โดยมีแนวต้านระยะสั้นใกล้ระดับ 2.36 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,282 บาท)

อย่างไรก็ตาม ในแง่การวิเคราะห์ทางเทคนิค มีสัญญาณการเกิด ‘รูปแบบหัวไหล่’ (Head and Shoulders) ซึ่งอาจบ่งชี้ถึง ‘ภาวะกลับทิศทางเป็นขาลง’ หากราคาหลุดแนวรับที่ 2.25 ดอลลาร์ลงมา นักลงทุนจึงควรจับตาท่าทีราคาช่วงสั้นอย่างใกล้ชิดว่าแนวโน้มจะปรับตัวตามรูปแบบนี้หรือไม่

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คริปโตหลายรายเห็นว่า หากบิตคอยน์ยังคงปรับขึ้นในระยะสั้น อาจส่งผลดีต่อเหรียญทางเลือก (Altcoin) หลายรายการ รวมถึง XRP ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ‘ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย’ ระหว่างริปเปิลกับ SEC ยังเป็นปัจจัยเหนี่ยวรั้งสำคัญที่อาจทำให้การฟื้นตัวของ XRP ถูกจำกัด โดยเฉพาะในระยะใกล้

ในระยะกลางและระยะยาว การกำหนดทิศทางของ XRP จึงต้องพึ่งพาผลลัพธ์ด้าน ‘ความชัดเจนทางกฎหมาย’ และระดับความเสี่ยงด้าน ‘กฎระเบียบ’ เป็นหลัก เอกสารทางกฎหมายที่จะมีประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจไม่เพียงแต่กระทบแค่ทิศทางการดำเนินธุรกิจของริปเปิลเท่านั้น แต่ยังอาจกำหนดสถานะของ XRP ในตลาดคริปโตทั่วโลกอีกด้วย