แคนาดาไฟเขียว 'อีทีเอฟริปเปิล(XRP) แบบสปอต' ตัวแรก เตรียมซื้อขาย 18 มิ.ย.นี้

แคนาดาได้สร้างหมุดหมายใหม่ให้กับวงการลงทุนคริปโต ด้วยการอนุมัติการจดทะเบียนซื้อขาย ‘อีทีเอฟอ้างอิง XRP แบบสปอต’ เป็นครั้งแรก โดยบริษัทเพอร์โพส อินเวสต์เมนต์ส์ (Purpose Investments) ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียน ‘เพอร์โพส XRP ETF’ อย่างเป็นทางการ และจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต (TSX) ภายใต้ชื่อย่อ ‘XRPP’ ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนนี้

นี่ถือเป็น ETF สปอตที่อิงกับริปเปิล(XRP) ตัวแรกในแคนาดา ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน XRP ได้โดยตรงภายใต้กรอบกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีตัวเลือกในลักษณะดังกล่าวในประเทศ วลาด ทาเซฟสกี(Vlad Tasevski) ประธานฝ่ายนวัตกรรมของเพอร์โพส อินเวสต์เมนต์ส์กล่าวว่า “การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของตลาดคริปโตในแคนาดา และช่วยให้นักลงทุนมีทางเลือกที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการเข้าถึงสินทรัพย์บล็อกเชน”

อีทีเอฟดังกล่าวถูกจัดให้มี 3 รูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของนักลงทุน ได้แก่ XRPP แบบป้องกันความเสี่ยงค่าเงินในรูปแบบดอลลาร์แคนาดา, XRPP.B แบบไม่มีเฮจ และ XRPP.U ที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนยังสามารถถือหน่วยลงทุนเหล่านี้ผ่านบัญชีเพื่อประโยชน์ทางภาษี เช่น TFSA (บัญชีออมทรัพย์ปลอดภาษี) และ RRSP (บัญชีออมเพื่อเกษียณ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง *ความก้าวหน้า* ของการเข้าถึงคริปโตภายในประเทศ

สิ่งที่ทำให้การอนุมัติครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ คือสถานการณ์ปัจจุบันในสหรัฐฯ ที่ริปเปิล(XRP) ยังคงอยู่ระหว่างการต่อสู้ในคดีกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ช่วงตัดสินสำคัญ ความคาดหวังต่อ *ความชัดเจนด้านกำกับดูแล* ที่ใกล้เข้ามานี้ได้ส่งผลเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และมีส่วนดันราคาของ XRP พุ่งขึ้นมากกว่า 7% แตะระดับ 2.30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,197 วอน

การเปิดตัว XRP ETF แบบสปอตครั้งนี้ เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนธรรมดา เพราะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ XRP ในฐานะสินทรัพย์การเงินระดับโลกและแสดงให้เห็นถึงกระบวนการของ ‘คริปโต’ ที่ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ท่าทีเชิงรุกของแคนาดาทางด้านกำกับดูแล ยังถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า *ทิศทางนโยบายก็อาจแตกต่างจากประเทศใหญ่อื่นๆ เช่น สหรัฐฯ* และอาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างตลาด ETF ทั่วโลกในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ