สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาของบิตคอยน์(BTC) และตลาดคริปโตโดยรวมกลับเข้าสู่ภาวะ ‘ขาลง’ อีกครั้ง โดยมีปัจจัยหลักมาจากถ้อยแถลงล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ซึ่งประกาศเตือนอย่างหนักต่อกรุงเตหะรานและตัดสินใจเดินทางกลับสหรัฐเร็วกว่ากำหนด
เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ทรัมป์ได้เดินทางกลับจากเมืองควิเบก แคนาดา หลังเสร็จสิ้นมื้อค่ำกับผู้นำประเทศหลักในการประชุม G7 พร้อมสั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ(White House National Security Council) ยกระดับเตรียมพร้อมฉุกเฉิน ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่เขาโพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social เรียกร้องให้ “ทุกคนอพยพออกจากเตหะรานทันที!”
แคโรไลน์ เลเวอริต(Caroline Leavitt) โฆษกทำเนียบขาวระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “แม้การประชุม G7 ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จในหลายด้าน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจยุติกำหนดการและเดินทางกลับทันที เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรง” พร้อมชี้ชัดว่าการเดินทางกลับครั้งนี้เป็นผลโดยตรงจากความขัดแย้งทางทหารระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่เริ่มขยายตัว
ความตึงเครียดทางการทูตดังกล่าว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดคริปโตทันที โดยบิตคอยน์ร่วงกว่า 2% ภายในไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ราคาตกลงมากกว่า 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 2.78 ล้านบาทไทย โดยจากระดับสูงระหว่างวันที่ 108,780 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.51 ล้านบาท) ราคาดิ่งลงสู่ 106,421 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.48 ล้านบาท) หลังข่าวถูกเผยแพร่ ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ บิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่ค่อนข้างนิ่งนับตั้งแต่ทะลุแนวต้าน 1 แสนดอลลาร์เมื่อต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา ทว่าความไม่แน่นอนจากปัจจัย ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ ทำให้นักลงทุนเริ่มตึงเครียด และเทขายบางส่วน ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อราคาช่วงสั้น
*ความคิดเห็น* หลายฝ่ายชี้ว่าพฤติกรรมราคาของบิตคอยน์ในครั้งนี้สะท้อน ‘แนวโน้มใหม่’ ที่ทำให้คริปโตเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ความเสี่ยงด้านการเมืองเพิ่มสูงขึ้น นักวิเคราะห์ยังเตือนอีกว่า หากความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้อ ตลาดคริปโตอาจเผชิญความผันผวนที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกหลายช่วง
ความคิดเห็น 0