เอริก ทรัมป์ปฏิเสธมีส่วนร่วมควบรวมกิจการทรอน(TRX) เข้าตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ใกล้ชิดจัสติน ซัน

เอริก ทรัมป์ได้ออกมา *ปฏิเสธอย่างชัดเจน* ต่อกระแสข่าวที่ว่าเขาอาจมีบทบาทในแผนควบรวมกิจการเพื่อให้นำเหรียญคริปโต *ทรอน(TRX)* เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยยืนยันว่ายังไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แม้จะมีความใกล้ชิดกับ *จัสติน ซัน* ผู้ก่อตั้งทรอนก็ตาม เหตุการณ์นี้สร้างความสนใจอย่างมากในหมู่นักลงทุนหลังมีรายงานว่าทรอนกำลังเดินหน้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐผ่านวิธี ‘ควบรวมกิจการย้อนกลับ’ กับบริษัทจดทะเบียนในแนสแด็ก

รายงานจาก *Financial Times* เมื่อวันที่ 16 ระบุว่า ทรอนอยู่ระหว่างเดินหน้าแผนควบรวมกับบริษัท SRM Entertainment ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก โดยมีเป้าหมายเพื่อนำทรอน(TRX) เข้าสู่ตลาดทุนสหรัฐ และระบุเพิ่มเติมว่า *เอริก ทรัมป์* อาจเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทใหม่หลังการควบรวม แต่เอริก ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียในวันเดียวกันว่า “*จัสติน ซัน* เป็นเพื่อนที่ดีและบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมคริปโต แต่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับดีลควบรวมกิจการนี้เลย”

ก่อนหน้านี้ SRM เคยประกาศว่าบริษัทสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้รวม 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) พร้อมเปิดเผยว่า *จัสติน ซัน* จะเข้ามามีบทบาทในฐานะที่ปรึกษา และวางแผนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘*ทรอน อิงค์(Tron Inc.)*’ โดยจะนำเหรียญทรอน(TRX) เข้ามาเป็น ‘สินทรัพย์หลัก’ สำหรับยุทธศาสตร์ใหม่ในตลาดคริปโต

ดีลครั้งนี้ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า *Dominari Securities* บริษัทลูกของ *Dominari Holdings* ได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพียงรายเดียว โดย Dominari เป็นบริษัทที่เชื่อมต่อกับกิจการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐซึ่งมีเอริก ทรัมป์ และ *โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์* ลูกชายของทรัมป์ ร่วมเป็นที่ปรึกษาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ *ตระกูลทรัมป์* เคยออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่เชื่อมโยงพวกเขากับโครงการกระเป๋าคริปโต NFT ที่ใช้ชื่อว่า ‘*Trump Wallet*’ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มี *TRUMP* เหรียญมีมคอยน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับจัสติน ซัน ถูกนำไปใช้โฆษณาในโครงการ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ปัจจุบัน *จัสติน ซัน* เป็นผู้ถือเหรียญ TRUMP รายใหญ่ที่สุด และเขาเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดพิเศษที่ทรัมป์จัดขึ้น ณ *Trump National Golf Club* ร่วมกับนักลงทุนระดับสูงเมื่อเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังลงทุน 75 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,043 ล้านบาท) ในบริษัทคริปโต *เวิลด์ ลิเบอร์ตี้ ไฟแนนเชียล(WLF)* ซึ่งก่อตั้งโดยครอบครัวทรัมป์ ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

เวิลด์ ลิเบอร์ตี้ ไฟแนนเชียลเพิ่งเปิดตัวเหรียญ *USD1* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ทำงานบนบล็อกเชนทรอน ส่งผลให้ความร่วมมือระหว่างจัสติน ซันและครอบครัวทรัมป์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

แม้จะมีความร่วมมือเชิงพาณิชย์เช่นนี้ แต่ *คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)* ได้ประกาศยุติการสอบสวน *ทรอน* และ *ซัน* ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2023 แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตยังมองว่าควร *ตรวจสอบซ้ำ* เกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างโครงการคริปโตที่เชื่อมโยงกับประธานาธิบดีทรัมป์อย่างจริงจัง