EU เสี่ยงหลุดผู้นำคริปโตโลก เหตุ MiCA ล่าช้า-กฎไม่ยืดหยุ่น

สหภาพยุโรป(EU)กำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางความกังวลว่ากำลังสูญเสียความเป็นผู้นำด้าน *การกำกับดูแลคริปโต* ให้กับสหรัฐฯ และภูมิภาคเอเชีย จากเดิมที่เคยเป็นผู้บุกเบิก ด้วยกระบวนการยกร่างกฎหมายที่ล่าช้าและขาดความยืดหยุ่น ทำให้ EU เริ่มกลายเป็น ‘ภูมิภาคทางผ่าน’ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญวงการ

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ในเวที *Digital Assets Conference 2025* ซึ่งเป็นงานประชุมระหว่างประเทศด้านฟินเทค แคทรีโอนา เคลเลอร์ส หัวหน้าฝ่ายกฎหมายโครงการ Phygital กล่าวว่า EU กำลังเสี่ยงที่จะกลายเป็น ‘จุดผ่านกลางอากาศของสินทรัพย์คริปโต (crypto flyover zone)’ เธอแสดงความเห็นว่า “แม้ไม่กี่ปีก่อนยูโรปจะอยู่แถวหน้า แต่ด้วยจังหวะเปลี่ยนแปลงที่เร็วของเทคโนโลยี ทุกอย่างอาจเปลี่ยนได้ในพริบตา” พร้อมย้ำว่า สหรัฐฯ และเอเชียแปซิฟิก(APAC) มีความ ‘คล่องตัว’ ทางกฎหมายมากกว่า

อย่างไรก็ตาม EU ได้เริ่มใช้ *ระบบนำร่องเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT)* ที่ช่วยให้การออกและจัดเก็บสินทรัพย์การเงินที่ถูกโทเคนสามารถทำผ่านบล็อกเชนทั้งหมดได้ ทั้งยังมีความพยายามปรับปรุงกรอบ MiCA 2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันถัดไปของกฎหมาย MiCA แต่เคลเลอร์สมองว่ายังขาด ‘ความเฉพาะเจาะจงและความเร็ว’ ในการดำเนินการ

ในปี 2025 EU ได้เสริมมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม การบังคับใช้ *กฎหมายความทนทานทางดิจิทัล (DORA)* และข้อกำหนดความปลอดภัยไซเบอร์ใหม่สำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล โดย DORA มีเป้าหมายเพื่อปกป้องภาคการเงินจากภัยคุกคามไซเบอร์และเพิ่มเสถียรภาพเชิงระบบในยุคดิจิทัล

กฎหมาย MiCA ซึ่งเป็นหัวใจของกรอบกำกับดูแลคริปโต ได้เริ่มบังคับใช้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเปิดช่องให้บริษัทหนึ่งสามารถให้บริการทั่ว EU ได้ด้วยใบอนุญาตเดียว แต่ความล่าช้าในการนำไปปฏิบัติและความไม่สอดคล้องระหว่างประเทศสมาชิก กลับกลายเป็นอุปสรรคต่อการเข้าตลาดจริงของบริษัทคริปโตจำนวนมาก

วงการต่างแสดงความ ‘กังวล’ ว่า แม้ด้านเนื้อหากฎหมายจะมีความพร้อมที่สุดในโลก แต่ความล่าช้าและแข็งตัวในการดำเนินงาน อาจทำให้ EU สูญเสียบทบาทผู้นำ ในขณะที่ *สหรัฐฯ* มุ่งดันตลาดที่ขับเคลื่อนโดยนักลงทุนสถาบัน ส่วน *เอเชีย* นำโดยสิงคโปร์และฮ่องกง ก็กำลังสร้างระบบนิเวศที่ ‘ทดลองได้และยืดหยุ่น’

ขณะที่บรรยากาศใน *สหรัฐฯ* ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์อาจกลับมาดำรงตำแหน่ง ก็มีบทบาทในการสร้างทิศทางที่เป็นมิตรกับคริปโต้อย่างชัดเจน

ในท้ายที่สุด หาก EU ต้องการรักษาสถานะ ‘ผู้กำกับดูแลระดับแนวหน้า’ จะต้องเร่งปรับปรุง MiCA ให้ทันเกม พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน DLT และแก้ไขข้อจำกัดทางกฎหมายที่ชะลอการปฏิบัติ ไม่เช่นนั้น อนาคตของ EU อาจเหลือเพียงการเป็น ‘ทางผ่าน’ ของอุตสาหกรรมคริปโตระดับโลกเท่านั้น