ARK Invest ขายหุ้นเซอร์เคิล(CRCL) กว่า 100 ล้านดอลลาร์ แต่ยังมั่นใจศักยภาพระยะยาว

แม้อาร์กอินเวสต์ (ARK Invest) บริษัทจัดการการลงทุนในสหรัฐฯ จะขายหุ้นของเซอร์เคิล(Circle) รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,390 ล้านบาท) ออกไปติดต่อกันถึงสองวัน แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทสกุลเงินดิจิทัลแห่งนี้อย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) อาร์กอินเวสต์ซึ่งมี *แคธี วูด(Cathie Wood)* เป็นผู้นำ ได้ขายหุ้นของเซอร์เคิลอินเทอร์เน็ตกรุ๊ป(Circle Internet Group Inc., CRCL) มูลค่า 44.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 622 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นการขายต่อเนื่องหลังจากขายหุ้นมูลค่า 51.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 718 ล้านบาท) ไปเมื่อวันก่อน ส่งผลให้มูลค่ารวมของหุ้นที่ถูกขายออกในสองวันอยู่ที่ 96.46 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,340 ล้านบาท) ซึ่ง ‘คาดว่า’ เป็นการขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งสูงภายหลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์

การขายหุ้นครั้งนี้กระจายผ่าน ETF หลักสามกองของอาร์ก โดยกอง ARK Innovation ETF ($ARKK) ได้ขายหุ้น CRCL ไป 208,654 หุ้น, ARK Next Generation Internet ETF ($ARKW) ขาย 65,320 หุ้น และ ARK Fintech Innovation ETF ($ARKF) ขาย 26,134 หุ้น

อย่างไรก็ตาม หุ้นของ CRCL ยังคงเป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตของอาร์กอินเวสต์อยู่ โดย ARKK ถือครองหุ้น CRCL มูลค่า 371 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,157 ล้านบาท) คิดเป็น 6.13% ของกองทุน ARKK, ส่วน ARKW ถืออยู่ 115 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,599 ล้านบาท) คิดเป็น 6.05% และ ARKF มีสัดส่วนครองครอง 6.16% หรือ 68.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 954 ล้านบาท)

การลงทุนในเซอร์เคิลของอาร์กถือเป็นการลงทุนระยะต้น โดยก่อนที่บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาด อาร์กประกาศแผนลงทุนสูงสุด 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,085 ล้านบาท) และภายหลังจากที่เซอร์เคิลขยายมูลค่า IPO อาร์กก็เพิ่มสัดส่วนการถือครองตามไปด้วย หุ้น CRCL ได้ถูกนำเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก(NYSE) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ราคาเปิด 31 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยภายในวันที่ 17 มิถุนายน ราคาขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 163 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวเล็กน้อยและอยู่ที่ราว 153 ดอลลาร์ในปัจจุบัน หรือสูงขึ้นประมาณ 390% จากราคา IPO

นอกจากแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความเชื่อมั่นของอาร์กต่อเซอร์เคิลยังมาจากมุมมองเชิงระบบอีกด้วย โดยในรายงานล่าสุดของทีมวิจัยอาร์ก ระบุว่า การเข้าตลาดของเซอร์เคิลถือเป็น ‘สัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือในตลาดสเตเบิลคอยน์’ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการใช้สเตเบิลคอยน์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่การเข้าถึงดอลลาร์สหรัฐจำกัด โดยมีการกล่าวถึงบทบาทของเซอร์เคิลและเทเธอร์ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการโอนเงินข้ามพรมแดนและการเข้าถึงบริการทางการเงินบนบล็อกเชน

แม้การขายหุ้นล่าสุดของอาร์กอินเวสต์จะมีลักษณะ ‘การทำกำไร’ ที่ชัดเจน แต่บริษัทก็ยังคงวางตำแหน่งให้เซอร์เคิลเป็นสินทรัพย์ระยะยาวที่สำคัญ และ ‘โอกาสการประเมินมูลค่าใหม่’ ของเซอร์เคิลท่ามกลางการเติบโตของตลาดสเตเบิลคอยน์ยังคงเปิดกว้างต่อไป