ฟอร์ดเข้าร่วมโครงการบล็อกเชนคาร์ดาโน(ADA) พัฒนาโซลูชันเก็บเอกสารกฎหมายระดับองค์กร

บริษัทฟอร์ดเข้าร่วมโครงการที่พัฒนาบนคาร์ดาโน(ADA) อย่างเป็นทางการ ทำให้อุตสาหกรรมเริ่มเห็นความเป็นจริงของการนำบล็อกเชนมาใช้ในภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดยฟอร์ดจะมีบทบาทให้คำปรึกษาในโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจัดการปัญหาการเก็บรักษาข้อมูลทางกฎหมายจำนวนมากขององค์กรขนาดใหญ่

โครงการนี้นำโดยไออากอน(Iagon) แพลตฟอร์มคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ซึ่งกำลังพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติเอกสารที่ใช้ *คาร์ดาโน(ADA)* เป็นพื้นฐาน ร่วมมือกับบริษัทซอฟต์แวร์กฎหมายคลาวด์คอร์ท(CloudCourt) เพื่อออกแบบระบบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการเอกสารด้านกฎหมาย เช่น บันทึกศาล, สัญญา และคำให้การ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง

ฟอร์ดจะนำเสนอความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการแผนกกฎหมายในองค์กรขนาดใหญ่โดยตรง ในโครงการนี้*คลาวด์คอร์ท*จะใช้เครื่องมือวิเคราะห์ด้านกฎหมายที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ขณะที่ *ไออากอน* จะให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบกระจายศูนย์

ก่อนหน้านี้ การเก็บข้อมูลเอกสารภายในองค์กรที่กระจัดกระจายไปตามแผนกต่าง ๆ ก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและการเข้าถึงที่ไม่มีประสิทธิภาพ การทดลองใช้งานครั้งนี้ (Proof of Concept - POC) จึงเป็นการประเมินว่าเทคโนโลยี *บล็อกเชน* จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้จริงหรือไม่

ตามคำกล่าวของ *ไออากอน* การเข้าร่วมของฟอร์ดถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนที่มีความหมาย’ เพราะแสดงให้เห็นว่าการใช้งานบล็อกเชนกำลังขยายเกินกว่าภาคการเงินเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมที่จับต้องได้มากขึ้น จุดที่น่าสนใจคือผู้เล่นระดับโลกอย่างฟอร์ด กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้งานระบบจัดการเอกสารด้วยบล็อกเชนในภาคการผลิตอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ฟอร์ดไม่ได้เพิ่งเริ่มมีบทบาทในวงการบล็อกเชน ย้อนกลับไปในปี 2018 บริษัทเคยร่วมกับ BMW, เรอโนลต์ และ GM ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรบล็อกเชน Mobility Open Blockchain Initiative (MOBI) ต่อมาในปี 2019 ก็ได้ร่วมกับ IBM และ LG Chem ในโครงการติดตามเส้นทางการผลิตโคบอลต์ และในปี 2022 ยังมีการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบเชื่อมโยงกับเมตาเวิร์ส แสดงถึงความพยายามในการเข้าสู่โลก Web3

การเข้าร่วมโครงการ *คาร์ดาโน(ADA)* ในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวในยุทธศาสตร์ระยะยาวด้านบล็อกเชนของฟอร์ด ซึ่งอาจนำไปสู่การนำร่องด้านธุรกิจอย่างแท้จริงในอนาคต *ความคิดเห็น*: หากฟอร์ดเดินหน้าอย่างจริงจัง โครงการนี้อาจกลายเป็นต้นแบบให้บริษัทอื่นใน Fortune 500 หันมาใช้งานบล็อกเชนในระดับองค์กรได้มากขึ้นในอนาคต