ในขณะที่ตลาดคริปโตยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง บริษัทลงทุนจากสหราชอาณาจักร อบราคซาส แคปิตอล แมเนจเมนต์(Abraxas Capital Management) ได้เปิดเผยว่า สามารถทำกำไรได้กว่า *18.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว *2.56 พันล้านวอน* ผ่านกลยุทธ์การ *ขายชอร์ต* ในสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และ *โซลานา(SOL)*
เมื่อวันที่ 17 ตามรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน อาร์คแฮม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence) ระบุว่า อบราคซาสได้วางตำแหน่งขายชอร์ตใน *5 สกุลเงินคริปโตหลัก* ด้วยมูลค่ารวม *500 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *6.95 พันล้านวอน* โดยในจำนวนนี้ เป็นการวางเดิมพันกับ *บิตคอยน์* มูลค่า *224 ล้านดอลลาร์* และ *อีเธอเรียม* มูลค่า *163 ล้านดอลลาร์* ซึ่งรวมกันคิดเป็นเกินครึ่งของพอร์ตการขายชอร์ตทั้งหมด
นอกจากนี้ยังได้วางตำแหน่งใน HYPE มูลค่า *57 ล้านดอลลาร์*, *โซลานา* มูลค่า *44 ล้านดอลลาร์* และ SUI อีก *560,000 ดอลลาร์* หรือราว *800 ล้านวอน* กลยุทธ์นี้สอดรับอย่างแรงกับทิศทางตลาดที่เข้าสู่ภาวะผันผวนลงอย่างรวดเร็ว และช่วยหนุนให้การลงทุนในขาลงของอบราคซาสประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างฉับพลัน*
เมื่อดูจากตัวเลขล่าสุด ตลาดคริปโตโดยรวม *สูญเสียมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์* ในเวลาเพียงวันเดียว สะท้อนถึง *ภาวะซบเซาที่กำลังต่อเนื่อง* ขณะที่บิตคอยน์ร่วงลงราว *7%* จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก่อน และอีเธอเรียมเองก็พยายามรักษาแนวรับหลักอยู่
แม้พอร์ตการลงทุนของอบราคซาสยังไม่ถูกปิดสถานะ แต่ผลกำไรที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้มีมูลค่ารวมแล้วถึง *18.47 ล้านดอลลาร์* และหากตลาดยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มว่าบริษัทอาจจะสามารถเก็บเกี่ยวกำไรได้มากยิ่งขึ้น บริษัทมองว่าครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ที่สะท้อนถึง *ความผันผวนในระยะยาว* โดยเฉพาะในกลุ่มคริปโตขนาดใหญ่อย่างบิตคอยน์และอีเธอเรียม มากกว่าจะเป็นการเล่นสั้นในช่วงราคาพักฐาน
*ความคิดเห็น* จากนักลงทุนในตลาดคริปโตเริ่มตั้งคำถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดจากกลยุทธ์การขายชอร์ตในวงกว้างแบบนี้ โดยหลายฝ่ายให้ความสนใจกับทิศทางของอัตราการวางตำแหน่งในตลาด และการเคลื่อนไหวของข้อมูลออนเชนในสินทรัพย์หลัก
ในภาวะที่ *แรงกดดันในตลาดยังไม่คลี่คลาย* กลุ่มที่เดิมพันในฝั่งลงกำลังแสดงศักยภาพได้เหนือกว่ากลุ่มฝั่งขาขึ้น ขณะที่ ‘*ความกลัวในตลาด*’ ยังคงขยายตัว และมีแนวโน้มว่าทิศทางนี้อาจจะยืดเยื้อต่อไปในระยะใกล้
ความคิดเห็น 0