Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) เปิดแผนลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนระบบนิเวศคริปโตสู่การใช้งานจริง

เครือข่ายคริปโตอย่าง *พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* เปิดเผยแผนการสำคัญเพื่อขยายการใช้งานจริง เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 วันหลังเปิดตัวเมนเน็ต โดยจัดกิจกรรมระดับโลก 'พายเดย์(Pi Day)' ครั้งแรกหลังเข้าสู่โอเพนเน็ตเวิร์กอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศกองทุนร่วมลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,390 ล้านบาท) เพื่อต่อยอดการเติบโตของระบบนิเวศภายในเวลาเพียง 3 เดือนหลังเปลี่ยนผ่านสู่เมนเน็ตอย่างเป็นทางการ

หนึ่งในไฮไลต์ของแผนงานคือการก่อตั้ง *พาย เน็ตเวิร์ก เวนเจอร์ส(Pi Network Ventures)* ซึ่งเป็นโปรแกรมลงทุนตรงในสตาร์ทอัพที่สามารถขับเคลื่อนการใช้งานจริงของ Pi Token โดยมุ่งส่งเสริมการใช้สกุลเงินภายในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ทีมพัฒนายังได้เปิดตัวเกมใหม่เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้งาน โดยหนึ่งในนั้นคือ ‘ฟรุตตี้พาย(FruityPi)’ ซึ่งเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินพายและโครงสร้างโฆษณาในระบบนิเวศแล้วอย่างสมบูรณ์

กิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากคืองาน 'พายเฟสต์(PiFest)' ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–21 มีนาคม โดยดึงดูดผู้ค้ากว่า 125,000 รายและผู้ใช้งานมากถึง 1.8 ล้านคนทั่วโลก ส่งสัญญาณความแข็งแกร่งของชุมชนภายใต้ระบบโอเพนเน็ตเวิร์ก อย่างไรก็ตาม ราคาของ *Pi Token* ยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำ โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมาแสดงผลตอบแทนติดลบ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มราคาจะต้องพึ่งพาทั้งสภาวะตลาดโลกและการเพิ่มประโยชน์ใช้งานภายในเป็นหลัก

ในอีกด้านหนึ่ง *โดจคอยน์(DOGE)* ซึ่งเป็นมีมคอยน์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 0.16–0.18 ดอลลาร์ (ประมาณ 222–250 บาท) โดยนักวิเคราะห์คริปโตอย่าง อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ประเมินว่าหากสามารถหลุดจากช่วงสะสมปัจจุบันได้ อาจเห็นความผันผวนสูงถึง 60% โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 0.22 ดอลลาร์ (ราว 306 บาท) ด้านลบคือ 0.16 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ ขณะที่ *คริปโต เอลิท(Crypto ELITES)* มองแง่บวกโดยตั้งเป้าระยะยาวไว้สูงถึง 5 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,950 บาท) ส่วน *คามราน อัสการ์(Kamran Asghar)* เชื่อว่าการเกิด ‘โกลเด้นครอส’ จะส่งผลให้ "โดจคอยน์พุ่งสู่ดวงจันทร์"

สำหรับ *ริปเปิล(XRP)* ราคายังคงทรงตัวแถวระดับ 2.17 ดอลลาร์ (ราว 3,019 บาท) โดยมีสัญญาณทางเทคนิคหลักจาก *Bollinger Band* แสดงการหดตัว บ่งชี้ถึงความน่าจะเป็นของการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ในอนาคต จากสถิติย้อนหลัง การหดตัวลักษณะนี้มักนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้น ตัวอย่างคือในเดือนธันวาคมปีก่อน ที่ราคา XRP กระโดดขึ้นใกล้ระดับสูงสุดที่ 3.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,726 บาท) หลังจากช่วงเก็บตัวลักษณะเดียวกัน

บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน *Glassnode* รายงานว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน มีการขาย XRP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณการทำกำไรเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 70 ล้านดอลลาร์ (ราว 974 ล้านบาท) ซึ่งอาจกดดันราคาลงในระยะสั้น

ภายใต้สภาพตลาดคริปโตที่ยังเผชิญแรงขายต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวเชิงนวัตกรรมจาก *พายเน็ตเวิร์ก* และสัญญาณทางเทคนิคจาก *โดจคอยน์* และ *ริปเปิล* ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรเฝ้าระวัง เพราะอาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มใหญ่ในตลาด крипโตเคอร์เรนซีในระยะต่อไป *ความคิดเห็น*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1