อาร์แอลยูเอสดี(RLUSD) สเตเบิลคอยน์ของริปเปิล(XRP) มาแรง! ยอดกู้ทะลุ 49.97 ล้านดอลลาร์ใน DeFi

อาร์แอลยูเอสดี(RLUSD) เหรียญสเตเบิลคอยน์ของริปเปิล(XRP) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ในวงการการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือดีไฟ(DeFi) หลังจากที่สามารถทำสถิติยอดการกู้ยืมทะลุ 49.97 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 6,945 ล้านบาท) บนแพลตฟอร์ม Euler Finance ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Sentora เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่พุ่งสูงสุดของ RLUSD ในฐานะสินทรัพย์ค้ำประกันที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดดีไฟ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากที่ RLUSD ถูกนำขึ้นจดทะเบียนบน Euler Finance ซึ่งช่วยสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความต้องการที่พัฒนาอย่างฉับไวในหมู่นักลงทุน ด้วยฟีเจอร์ที่ครบถ้วน ผู้ใช้สามารถนำ RLUSD ไปใช้ฝากเงิน กู้ยืม หรือใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งกลายเป็นแรงเร่งให้ RLUSD แทรกตัวเข้าตลาดได้อย่างรวดเร็ว

นอกจาก Euler Finance แล้ว RLUSD ยังถูกนำไปจดทะเบียนบนตลาดอาเว(Aave) V3 Ethereum core ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยให้บริการในรูปแบบเดียวกันคือการฝากและกู้ยืม สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด RLUSD มีการออกเหรียญใหม่เพิ่มขึ้นถึง 10 ล้าน RLUSD ในวันที่ 18 มิถุนายน เพียงวันเดียว (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) ทำให้ยอดรวมเหรียญ RLUSD ที่หมุนเวียนในตลาดขณะนี้มีมากถึง 415.74 ล้านหน่วย (ประมาณ 57,796 ล้านบาท)

โดย RLUSD เป็นสเตเบิลคอยน์แบบผูกค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่สร้างบนเครือข่าย XRP เลเจอร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ XRP ซึ่งยังประกอบไปด้วยเหรียญชื่อดังอื่นๆ เช่น เหรียญยูเอสดีซี(USDC) ของเซอร์เคิล(Circle), เหรียญเอ็กซ์เอสดี(XSGD) ของสเตรทส์เอ็กซ์(StraitsX), เหรียญยูโรป์(EURØP) ของชูมันไฟแนนเชียล(Schuman Financial) และเหรียญยูเอสดีบี(USDB) ของบราซาแบงก์(BrazaBank)

กระแสความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่วุฒิสภาสหรัฐเพิ่งผ่านร่างกฎหมายกำกับดูแล ‘สเตเบิลคอยน์’ ซึ่งยิ่งกระตุ้นให้ตลาดโดยรวมคึกคักยิ่งขึ้น ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ในปัจจุบันพุ่งถึง 255,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 354,450 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับต้นปี

*ความคิดเห็น* บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า หากสหรัฐเดินหน้าการออกกฎหมายควบคุมเต็มรูปแบบ จะยิ่งเปิดทางให้สเตเบิลคอยน์เข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักมากขึ้น และผลักดันให้โครงการอย่างริปเปิล ยิ่งก้าวหน้าอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งความสำเร็จของ RLUSD ในครั้งนี้ ก็อาจถือเป็น ‘สัญญาณ’ แห่งโอกาสที่กำลังจะมาถึงในอนาคตของตลาดคริปโต.