มูลค่าตลาดของสเตเบิลคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 17% จากต้นปี แตะระดับประมาณ 317 ล้านล้านวอน หรือราว 2,280 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงการกลับมาของ *‘สภาพคล่อง’* ในตลาดคริปโต นักวิเคราะห์เชื่อว่าการขยายตัวของสภาพคล่องดังกล่าวอาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการปรับตัวขึ้นระยะยาวของสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)*
รายงานประจำสัปดาห์จากบริษัทวิจัยตลาดคริปโต *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)* เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดในครั้งนี้ ได้รับแรงหนุนจาก *USDT ของบริษัทเทเธอร์* และ *USDC ของบริษัทเซอร์เคิล(Circle)* โดยเฉพาะ USDT ซึ่งเติบโตถึง 13% ในปีนี้ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 215 ล้านล้านวอน หรือราว 1,550 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มจากต้นปีถึง 25 ล้านล้านวอน (ประมาณ 180 พันล้านดอลลาร์) ส่วน USDC ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังจากวิกฤตการณ์ *Silicon Valley Bank* เมื่อปี 2023 โดยสามารถกลับมาตรึงมูลค่ากับดอลลาร์ได้อีกครั้ง และเพิ่มขึ้นถึง 39% ในช่วงปี 2025 ทำให้มูลค่าตลาดแตะระดับ 85 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 610 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ปริมาณสเตเบิลคอยน์ที่ถืออยู่ใน *กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบรวมศูนย์(CEX)* ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะทรัพย์สินในรูปแบบ *ERC-20* บน *อีเธอเรียม(ETH)* ที่มีมูลค่ารวม 70 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 500 พันล้านดอลลาร์ โดย USDC เพียงตัวเดียวก็มีปริมาณที่ฝากไว้ในแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นถึง 1.6 เท่าตัวอยู่ที่ 11 ล้านล้านวอน หรือราว 80 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนถึง *กระแสเงินรอเข้าลงทุน* ที่อาจนำไปสู่ความต้องการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
สเตเบิลคอยน์ประเภทให้ผลตอบแทน (Yield-bearing Stablecoin) ก็มีการฟื้นตัวเช่นกัน โดยนับตั้งแต่แตะจุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม มูลค่าการฝากรวมเพิ่มขึ้น 28% มาอยู่ที่ราว 960 พันล้านวอน (ประมาณ 690 ล้านดอลลาร์) ซึ่ง *sUSDe* และ *sUSDs* มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวนี้ โดยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 1.23 พันล้านดอลลาร์ และ 700 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
นักวิเคราะห์ยังชี้ว่า การที่สหรัฐเริ่มมีกรอบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ *ชัดเจนขึ้นในปีนี้* และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่ลดลงหลัง *ประธานาธิบดีทรัมป์* กลับมาดำรงตำแหน่ง ล้วนมีส่วนส่งเสริมให้ยูสเคสของสเตเบิลคอยน์เติบโต ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการชำระเงินหรือโอนเงินระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสินทรัพย์หลักในระบบ *ดีไฟน์(DeFi)* และใช้กันแพร่หลายในกลยุทธ์การเทรดแบบมืออาชีพ
ทิศทางของสภาพคล่องนี้ กำลังกลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนในตลาด คาดการณ์ว่า *การสะสมทุนในรูปแบบสเตเบิลคอยน์ในกระดานเทรด* อาจเป็นสัญญาณของช่วงรอเข้าซื้อใหม่ หากเม็ดเงินจำนวนนั้นไหลเข้าสู่เหรียญทางเลือก (Altcoin) และตลาดหลักอย่างบิตคอยน์หรืออีเธอเรียม ก็อาจเปิดฉากการปรับขึ้นขนาดใหญ่อีกระลอก สะท้อนว่าสภาพคล่องได้ถูกป้อนเข้าสู่ตลาดเรียบร้อยแล้ว และ *ตลาดคริปโตกำลังรอเพียง ‘ประกายไฟแรก’ เท่านั้นในการเร่งเครื่องต่อ*
ความคิดเห็น 0