Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

วุฒิสภาสหรัฐผ่านกฎหมาย GENIUS หนุนสเตเบิลคอยน์ เขย่าบทบาทริปเปิล(XRP)

วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายควบคุม ‘สเตเบิลคอยน์’ ภายใต้ชื่อ ‘กฎหมายจีเนียส’(GENIUS Act) ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 68 ต่อ 30 เสียง ทำให้ตลาดคริปโตเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ โดยหากร่างกฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรตามด้วยการอนุมัติจากทรัมป์ ก็จะเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความหวังว่าการที่สเตเบิลคอยน์จะเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักอาจเป็นจริงในเร็ววัน ทว่าพร้อมกันนั้น ก็จุดกระแสกังวลเกี่ยวกับบทบาทของริปเปิล(XRP) ที่อาจถูกลดความสำคัญลงอย่างมีนัยสำคัญ

ความกังวลนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เนื่องจากสเตเบิลคอยน์มีจุดแข็งในฐานะเครื่องมือโอนเงินที่เชื่อถือได้ รวดเร็ว และมีมูลค่าคงที่เพราะผูกกับเงินตราจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลักษณะนี้ไปทับซ้อนกับการใช้งานเดิมของริปเปิลที่เน้นด้านการชำระเงินต่างประเทศและเพิ่มสภาพคล่องระหว่างประเทศ จึงมีความเป็นไปได้ที่ XRP จะค่อยๆ เสียพื้นที่ในตลาด

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกฝ่ายในวงการจะเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เจค เคลเวอร์(Jake Claver) จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน QFOP กล่าวว่า “การมาของสเตเบิลคอยน์ไม่ได้ลดความจำเป็นของ XRP ลง” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่าขณะนี้บัญชีการชำระเงินระหว่างธนาคารแบบ Nostro/Vostro มีมูลค่ารวมประมาณ 27 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 3.75 แจกะบาท) และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 50 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 6.95 แจกะบาท) ในอนาคต โดยเน้นว่า “ธนาคารไม่น่าจะไว้ใจสเตเบิลคอยน์ของกันและกัน จึงจำเป็นต้องมีสินทรัพย์สะพานกลางที่เป็นกลางและเชื่อถือได้ ซึ่ง XRP มีคุณสมบัตินี้”

สิ่งที่ทำให้ XRP โดดเด่นกว่าสเตเบิลคอยน์คือ ‘ความเป็นกลาง’ เนื่องจากไม่มีผู้ควบคุมศูนย์กลาง และสามารถถ่ายโอนมูลค่าได้อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ ขณะที่สเตเบิลคอยน์ยังถูกจำกัดด้วยสกุลเงินที่รองรับ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในกรณีการโอนเงินจากญี่ปุ่นไปเม็กซิโกโดยใช้ USD สเตเบิลคอยน์อาจยุ่งยากกว่า แต่หากใช้ XRP ก็สามารถโอนเงินได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องถือเงินล่วงหน้า

อีกประเด็นที่ XRP กำลังได้รับความสนใจคือการพัฒนาเทคโนโลยีของเครือข่าย XRP เลเจอร์ ล่าสุดได้มีการเปิดตัวมาตรฐาน XLS-80 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระหว่างสถาบันการเงิน มีผู้วิเคราะห์มองว่ามาตรฐานนี้มีศักยภาพถึงขั้นมาแทนที่อีเธอเรียม(ETH) ในด้านการใช้งานบางประเภทได้

บทสรุปคือ การที่หน่วยงานกำกับดูแลเลือกที่จะผลักดันสเตเบิลคอยน์ให้เข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการนั้น อาจถือได้ว่าเป็นทั้ง ‘ภัยคุกคาม’ และ ‘โอกาส’ สำหรับ XRP เพราะในโลกการเงินที่ยังขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกันโดยสิ้นเชิง ความเป็นกลางและความเร็วของ XRP อาจทำให้มันกลายเป็นโครงสร้างหลักของการเคลื่อนย้ายมูลค่าทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่า แม้บทบาทของ XRP จะเปลี่ยนไป แต่ความสำคัญในฐานะตัวกลางเชื่อมโยงระบบการเงินโลกก็ยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1