Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ก.ล.ต.ไทยเล็งออกกฎใหม่ ให้แพลตฟอร์มคริปโตออกโทเคนได้แต่ต้องเปิดเผยชื่อ ผู้ออกโทเคน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ของไทย เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างระเบียบใหม่ ที่จะอนุญาตให้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มนั้นสามารถออกโทเคนเพื่อการใช้งาน (Utility Token) ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการยกระดับกรอบการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตของประเทศ

ตามร่างระเบียบดังกล่าว หากมีผลบังคับใช้ แพลตฟอร์มที่ออกโทเคนจะต้องเปิดเผยชื่อจริงของผู้ออกโทเคนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ด้วยเป้าหมายเพื่อ *เพิ่มการเฝ้าระวังต่อพฤติกรรมการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading)* ซึ่งยังคงเป็นปัญหาซ้ำซากในตลาดคริปโต

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยมีการประกาศนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้คริปโตเคอร์เรนซีผ่านบัตรเครดิต ตามมาด้วยการสั่งระงับบริการของแพลตฟอร์มอย่าง OKX และ Bybit เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ และต่อมาในเดือนถัดมาได้มีการประกาศยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายคริปโตผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่ *เอื้อต่ออุตสาหกรรมคริปโต* อย่างชัดเจน

แม้จะมีท่าทีสนับสนุน แต่ประเทศไทยก็เคยเผชิญกับเหตุการณ์อื้อฉาวเกี่ยวกับ *การซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน* ย้อนกลับไปในปี 2022 ที่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของบิทคับ(Bitkub) หนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของไทย ถูก ก.ล.ต. ตั้งข้อกล่าวหาว่าใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อเหรียญบางตัวก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้เกิดกฎระเบียบที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในตลาดคริปโตของไทย

*การใช้ข้อมูลภายในเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในการซื้อขายโทเคน* ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโต ปรากฏการณ์นี้มักถูกมองข้าม แม้ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมพฤติกรรมดังกล่าวจะเข้าข่ายผิดกฎหมายชัดเจน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือปี 2021 เจ้าหน้าที่ของโอเพนซี(OpenSea) อย่างเนต ชาสเทน(Nate Chastain) ถูกฟ้องในข้อหาซื้อ NFT โดยรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการโปรโมตบนเว็บไซต์ และสุดท้ายได้รับโทษจำคุก 3 เดือนในปี 2023 เช่นเดียวกับกรณีของพนักงานจากคอยน์เบส(Coinbase) 3 ราย เมื่อปี 2022 ที่ถูกดำเนินคดีฐานใช้ข้อมูลภายใน เพื่อซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ 2 คนในนั้นได้รับโทษจำคุกเช่นกัน

ล่าสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าพนักงานของไบแนนซ์(Binance) ถูกสั่งพักงานจากข้อสงสัยเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน และในกรณีของโทเคนแนวมส์ ‘ออฟฟิเชียล ทรัมป์(Official Trump, TRUMP)’ ที่เชื่อมโยงกับทรัมป์ ก็มีการพบธุรกรรมต้องสงสัยจากกระเป๋าวาฬ ที่อาจบ่งชี้ถึง *การมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลวงใน*

มาตรการใหม่จาก ก.ล.ต. ไทยในครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นอีกก้าวของรัฐบาลในการสร้าง *ความน่าเชื่อถือ* ให้กับอุตสาหกรรมคริปโต พร้อมปูรากฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลระดับโลก โดยเฉพาะการส่งสัญญาณชัดเจนว่าประเทศไทย *จะไม่ยอมให้พฤติกรรมที่ละเมิดความโปร่งใส* ยังคงมีที่ยืนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอีกต่อไป

*ความคิดเห็น:* การผลักดันร่างกฎใหม่นี้อาจช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นต้นแบบในเรื่องความโปร่งใสของภาคคริปโตในระดับโลก หากสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1