ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ‘ริปเปิล(XRP)’ สร้างความสนใจในวงการคริปโต หลังจากเครือข่ายบล็อกเชนของตนเองอย่าง ‘XRP เลเจอร์’ แสดงสัญญาณผิดปกติ โดยเฉพาะตัวชี้วัด ‘NVT’ (Network Value to Transactions) ที่พุ่งทะลุระดับ 280 ตามข้อมูลจาก CryptoQuant เมื่อวันที่ 19 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ ‘ร้อนแรงเกินจริง’ และอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงแรงขายในระยะสั้น
ค่า NVT เป็นอัตราส่วนที่เปรียบเทียบระหว่างมูลค่าตลาดของโทเคนกับปริมาณธุรกรรมบนเครือข่าย คล้ายกับค่า PER ของตลาดหุ้น หากตัวเลขนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก แสดงถึงราคาที่สูงเกินความเป็นจริงโดยไม่ได้มีพื้นฐานจากการใช้งานจริงของเครือข่าย หรือ ‘ดีมานด์’ ที่แท้จริง โดย ‘ความคิดเห็น’ ของนักวิเคราะห์มองว่า นักเก็งกำไรมักเริ่มเข้าตลาดก่อนที่ตัวชี้วัดการใช้งานจริงจะรองรับราคา
ข้อมูล ณ วันที่ 19 มิถุนายน เผยว่าราคาของริปเปิลอยู่ที่ 2.167 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,013 บาท) แม้ราคาจะทรงตัว แต่ค่า NVT กลับทะยานขึ้น แสดงให้เห็นว่า ‘ปริมาณธุรกรรม’ ภายในเครือข่ายยังไม่มีพัฒนาการที่ชัดเจน สะท้อน ‘ความเปราะบาง’ ที่อาจตามมาด้วยแรงขายอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนสายเทรดสั้น ที่ต้องจับตามองทั้ง ‘ปริมาณซื้อขาย’ และ ‘อารมณ์ตลาด’
อย่างไรก็ดี แม้ราคา XRP ณ ปัจจุบันจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2.13 ดอลลาร์ (ราว 2,963 บาท) หรือลดลง 1.44% ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ปริมาณการซื้อขายกลับเพิ่มขึ้นกว่า 37% แตะ 2.59 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 ล้านล้านวอน) ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ ของนักลงทุนบางรายมองว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจเป็น ‘โอกาสเข้าซื้อระยะสั้น’ ได้เช่นกัน
อีกหนึ่งแรงสนับสนุนความหวังในตลาด XRP คือ ความคาดหวังเกี่ยวกับ ‘XRP ETF’ ที่อาจได้รับการอนุมัติในอนาคต ซึ่งเป็นข่าวดีที่ช่วยหนุนราคาขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ‘คำเตือน’ จากนักวิเคราะห์คือ หากไม่มีตัวชี้วัดจากออนเชนมาสนับสนุน ราคาก็อาจเข้าสู่ช่วงพักฐานหรือถูกขายทำกำไรได้
สุดท้าย จุดชี้ขาดสำคัญของริปเปิลในระยะถัดไปจะอยู่ที่ ‘กิจกรรมบนเครือข่าย’ หากสามารถขยับขึ้นมาสอดคล้องกับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ ก็อาจเกิดการ ‘ฟื้นตัว’ และส่งผลดีต่อความมั่นคงในระยะกลาง ขณะเดียวกัน หากธุรกรรมบนเครือข่ายยังคงซบเซา จุดอ่อนนี้อาจนำไปสู่ ‘แรงกดดันด้านราคา’ ได้มากยิ่งขึ้น นักลงทุนจึงควร ‘ประเมินความเสี่ยง’ และตัดสินใจอย่างมีสติในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังเปราะบางเช่นนี้
ความคิดเห็น 0