ในขณะที่การตัดสินใจด้านนโยบายของรัฐบาลสหรัฐดำเนินไปอย่างล่าช้า นักลงทุนคริปโตฯกลับไม่รอช้าและได้ปรับตัวต่อสถานการณ์ล่วงหน้าไปแล้ว โดยตลาดดูเหมือนจะตอบสนองต่อ *อารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุน* มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เช่น การคงอัตราดอกเบี้ยของเฟด, การผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ หรือข้อเสนอควบคุม *เหรียญเสถียร* อย่างเป็นทางการ
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดตัดสินใจ *คงอัตราดอกเบี้ย* ไว้ที่ 4.25-4.50% โดยยังไม่ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดในอนาคต เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่าจะยังคง *จับตาราคาเงินเฟ้อแบบระมัดระวัง* ซึ่งส่งผลให้ตลาดแสดง *ความผิดหวัง* โดยเฉพาะบิตคอยน์(BTC) ที่ร่วงลง 8% จากระดับ 112,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.55 ล้านบาท เหลือเพียง 104,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.44 ล้านบาท ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ เหล่านักวิเคราะห์เห็นว่าการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนั้น *ถูกตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว*
ในขณะที่สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง *โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP), คาร์ดาโน(ADA)* กลับแสดงสัญญาณเสถียรกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตามข้อมูลจาก *ซานติมเมนต์(Santiment)* บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน ระบุว่านักลงทุนกำลังดำเนินตามแบบแผน ‘ขายตามข่าวลือ ซื้อเมื่อข่าวออกแล้ว’ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในทิศทางตลาด ทั้งนี้ *ความคิดเห็น* จากหลายฝ่ายชี้ว่าความไม่แน่นอนดังกล่าวทำให้การตัดสินใจลงทุนยิ่งยากขึ้น
อีกด้านหนึ่ง การที่วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมาย *GENIUS* เพื่อควบคุม *เหรียญเสถียร* ได้นำไปสู่การคาดการณ์ว่านี่อาจเป็นก้าวสำคัญของการกำกับดูแลเหรียญอย่าง *USDC และ USDT* โดยร่างดังกล่าวระบุชัดว่าเหรียญเหล่านี้ต้องมี *การหนุนหลังด้วยเงินดอลลาร์ 100% และอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานทางการเงินที่เชื่อถือได้* หากร่างดังกล่าวผ่านถึงสภาผู้แทนราษฎรและมีผลบังคับใช้ บริษัทผู้ออกเหรียญเช่น *เซอร์เคิล(Circle)* และ *คอยน์เบส($COIN)* จะต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น แม้ในโซเชียลมีเดียจะมี *กระแสเชิงบวก* มากมาย แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าหากการออกกฎหมายล่าช้าหรือไม่มีประสิทธิภาพ การปรับฐานของตลาดอาจตามมา
ขณะเดียวกัน *ทรัมป์* ได้ผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เรียกว่า 'บิ๊ก บิวตี้ฟูล บิล(Big Beautiful Bill)' ซึ่งทำให้ *บิตคอยน์* ได้รับความสนใจในฐานะ 'ทองคำดิจิทัล' มากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ลงทุนกังวลเรื่องการเพิ่มปริมาณเงินในตลาด ส่งผลให้ความต้องการในการ 'เก็บมูลค่า' สูงขึ้น พร้อมกันนี้เหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัวอย่าง *โมเนโร(XMR)* รวมถึงแพลตฟอร์ม *เมกเกอร์ดาว(MakerDAO)* ก็เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นตามลำดับ
*มิมโทเคน* ที่อิงกับประเด็นการเมืองอย่าง 'โทเคนทรัมป์' ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเหรียญที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล หากกฎหมายในอนาคตครอบคลุมถึง *สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับคริปโตฯ* ก็มีแนวโน้มว่าอัตราการเข้าร่วมของชาวอเมริกันในวงการคริปโตฯ อาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ท้ายที่สุด ตลาดคริปโตฯกำลัง *ตั้งราคาตามคาดการณ์ล่วงหน้า* โดยไม่รอนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงถึง *การแข่งขันด้านข้อมูลข่าวสาร* ที่กำลังทวีความรุนแรงในโลกการลงทุนคริปโตฯ นักลงทุนที่สามารถคาดการณ์ก่อนจึงอยู่ในสถานะได้เปรียบเหนือกว่าผู้ที่รอข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น 0