แพลตฟอร์มกู้ยืมคริปโตชื่อดัง ‘การ์เดนไฟแนนซ์(Garden Finance)’ กำลังตกเป็นศูนย์กลางของข้อกล่าวหาร้ายแรง หลังจากมีรายงานว่าเงินจากเหตุการณ์แฮ็กที่เกิดขึ้นกับไบน์บีท(Bybit) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถูกนำมาฟอกผ่านแพลตฟอร์มนี้ โดยรายงานเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ว่าผู้ตรวจสอบบล็อกเชนชื่อดัง ‘แซคเอ็กซ์บีที(ZachXBT)’ ออกมากล่าวหาว่า การ์เดนไฟแนนซ์กำลังกลายเป็น ‘แหล่งฟอกเงิน’ ที่เอื้อต่อกลุ่มอาชญากรไซเบอร์
ข้อมูลจากดูน อนาไลติกส์(Dune Analytics) ระบุว่า การ์เดนไฟแนนซ์ได้ดำเนินธุรกรรมแบบอะตอมมิกสวอปในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เป็นจำนวนกว่า 24,984 บิตคอยน์(BTC) คิดเป็นมูลค่าราว 1.4 หมื่นล้านบาท พร้อมเก็บค่าธรรมเนียมรวมกว่า 40.11 BTC หรือราว 22 ล้านบาท ขณะที่ธุรกรรมเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแตะระดับ 10 BTC โดยเว็บไซต์ทางการอวดอ้างว่าเป็น ‘สะพานเชื่อมบิตคอยน์ที่เร็วที่สุด’ แต่แซคเอ็กซ์บีทให้ความเห็นว่าความเร็วและไร้ตัวตนนี้เองคือจุดแข็งที่ทำให้อาชญากรสามารถฟอกเงินได้อย่างง่ายดาย
แซคเอ็กซ์บีทให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านโพสต์ใน X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่า รายได้จากค่าธรรมเนียมกว่า 80% ของการ์เดนไฟแนนซ์ในช่วงที่ผ่านมา มาจากผู้ใช้ซึ่งเชื่อมโยงกับบุคคลในจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ นอกจากนี้ยังชี้ว่าเมื่อการจำกัดธุรกรรมถูกเพิ่มเพดานเป็น 10 BTC กลับมีเพียงไม่กี่ที่อยู่กระเป๋าที่ผูกขาดการควบคุมคำสั่งซื้อ cbBTC ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาการกระจุกตัวและความไม่เป็นกลางของแพลตฟอร์มที่ควรจะเป็นแบบกระจายศูนย์
ในด้านของการป้องกันตัวเอง แจ๊ส กุลลาตี(Jaz Gulati) ผู้ร่วมก่อตั้งการ์เดนไฟแนนซ์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุผ่านโพสต์ใน X ว่า ทีมของตนถือครอง BTC จำนวน 30 เหรียญมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2024 แล้ว พร้อมทั้งแนบภาพหน้าจอโพสต์เก่าเพื่อยืนยันว่าเงินดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แฮ็กของไบน์บีท อย่างไรก็ตาม แซคเอ็กซ์บีทยังคงตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติม ทั้งกรณีแฮ็กแพลตฟอร์ม WazirX และเหตุการณ์อื่น ๆ ที่อาจเชื่อมโยงกับลาซารัส กรุ๊ปอีกด้วย
ประเด็นดังกล่าวเริ่มขยายวงในกลุ่มผู้ใช้งาน โดยเจมส์ สคาวเออร์(James Scaur) ผู้ใช้รายหนึ่งออกมาสนับสนุนกุลลาตี พร้อมระบุว่าโครงสร้างการดำเนินงานของการ์เดนไฟแนนซ์อาจเข้ากับกฎพาเรโต ซึ่งเป็นเรื่องปกติหากมีผู้เล่นรายใหญ่เพียงไม่กี่คน แต่แซคเอ็กซ์บีทแย้งว่าโครงสร้างปัจจุบันกลับยิ่งเอื้อต่อพฤติกรรมฟอกเงิน และการที่ธุรกรรมส่วนใหญ่มาจากเงินของไบน์บีทยังทำให้ตรวจสอบแหล่งเงินผิดกฎหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น
เขายังวิจารณ์เพิ่มเติมว่า ทีมงานเพิกเฉยต่อคำเตือนในอดีต และกลับให้ความสำคัญกับรายได้ค่าธรรมเนียมมากกว่าการควบคุมพฤติกรรมที่ผิดปกติ พร้อมเสนอว่า หากการ์เดนไฟแนนซ์ไม่สามารถป้องกันธุรกรรมผิดกฎหมายได้ ก็ควรคืนค่าธรรมเนียมที่ได้จากการฟอกเงิน และจำกัดขนาดธุรกรรมใหม่ นอกจากนี้ยังชี้ว่ารายได้ 30 BTC ที่ทีมบริหารกล่าวถึงนั้น มาจากแคมเปญแจกเหรียญ(airdrop farming) ที่เริ่มต้นในต้นปี 2024
ถึงตอนนี้ทางการ์เดนไฟแนนซ์ยังคงปฏิเสธบางข้อกล่าวหา แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนต่อข้อสงสัยเกี่ยวกับการเป็น ‘เส้นทางฟอกเงิน’ ที่ถูกเปิดเผยเพิ่มเติมจากแซคเอ็กซ์บีท ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมคริปโต ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในภาคบล็อกเชนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน หากแพลตฟอร์มไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ ความไว้วางใจที่เคยได้รับอาจหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ความคิดเห็น 0