HYPE พุ่งแรง 4.6% สวนตลาดคริปโต นักวิเคราะห์คาดอาจแตะ 53 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน

แม้ราคาบิตคอยน์(BTC) จะร่วงต่ำกว่าระดับ 100,000 ดอลลาร์ และตลาดคริปโตโดยรวมยังอยู่ภายใต้แรงกดดันด้านลบในช่วงนี้ แต่โครงการ *ไฮเปอร์ลิควิด(HYPE)* กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่สินทรัพย์ที่ยังสามารถแสดงแนวโน้มเชิงบวก จนกลายเป็นที่จับตามองของนักลงทุน

ปัจจุบัน HYPE มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 35.83 ดอลลาร์ หรือราว 49,799 บาท โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นราว 4.6% และมีมูลค่าตลาดแตะระดับ 11.8 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.64 ล้านล้านบาท แม้ภาพทางเทคนิคยังมีความผันผวน แต่หากสามารถทะลุแนวต้านที่ 39 ดอลลาร์ ก็อาจเปิดทางให้เกิดการปรับขึ้นรอบใหม่ในระยะสั้น

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้ คือการเข้าซื้อของ ‘วาฬ’ หรือผู้เล่นรายใหญ่ โดยจากข้อมูลของแพลตฟอร์มสำรวจข้อมูลบล็อกเชน Lookonchain ระบุว่า มีวอลเล็ตใหม่ชื่อ 0xDc50 เพิ่งฝากเงิน USDC มูลค่ากว่า 17.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 243.3 ล้านบาท) เข้าสู่แพลตฟอร์ม และนำไปซื้อ HYPE จำนวน 517,602 โทเคน ที่ราคาเฉลี่ย 33.8 ดอลลาร์ต่อหน่วย ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์พุ่งขึ้นเป็น 18.31 ล้านดอลลาร์ หรือราว 254.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อกไว้ในโปรโตคอล (TVL) ก็เพิ่มสูงขึ้นเกิน 1.8 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ และข้อมูลล่าสุดยังเผยว่า HYPE เป็นโปรเจกต์ที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดเมื่อเทียบกับเชนอื่น ๆ ในเดือนพฤษภาคม อีกทั้งยังมียอดมูลค่าสัญญาคงค้าง (Open Interest) ถึง 9 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้าไบแนนซ์ และปริมาณซื้อขายผ่าน USDC ก็เติบโตถึง 8.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวมที่อยู่ที่ 0.4%

สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่เพียงแต่นักลงทุนรายย่อยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ยังมีบริษัทมหาชนอย่าง *Inovia* ที่นำเงินบางส่วนมาวางสเตกใน HYPE อีกด้วย เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวมให้กับโปรเจกต์

สำหรับแนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์ประเมินว่า *HYPE อาจไต่ระดับขึ้นไปแตะช่วง 42–53 ดอลลาร์* ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 40 ดอลลาร์ได้ อาจเผชิญแรงขายทำกำไรและปรับตัวลงมาที่บริเวณ 30–35 ดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ *คริปโตเคิร์ฟ(CryptoCurb)* มองว่าเป็นแนวรับสำคัญสำหรับการเริ่มต้นรอบขาขึ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ราคาของ HYPE จะขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังเดือนกรกฎาคม หากแรงซื้อและการมีส่วนร่วมจากชุมชนยังคงแข็งแกร่ง โดยมีการคาดการณ์ว่าในรอบ *ออลต์ซีซัน* ครั้งถัดไป ราคาอาจทะลุ 100–200 ดอลลาร์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระวังแรงขายในโซนแนวต้าน แม้แนวโน้มจะยังเป็นบวกอยู่ก็ตาม "ความคิดเห็น" นี้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่น่าสนใจ แต่ควรลงทุนด้วยความรอบคอบ