ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ได้กลับมาย้ำแนวคิดเรื่อง ‘อธิปไตยบิตคอยน์’ อีกครั้ง หลังบริษัทลงทุนในบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์ที่เขาเป็นผู้นำอย่างสแตรตทิจี(Strategy) เพิ่งเข้าซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มอีก 10,100 BTC ขณะเดียวกัน เมตาแพลนเน็ต(Metaplanet) บริษัทญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ก็เพิ่งประกาศซื้อ 1,111 BTC พร้อมตั้งเป้าถือครอง 30,000 BTC ภายในสิ้นปี 2025 โดยเซย์เลอร์โพสต์ข้อความเชิงสัญลักษณ์ว่า “จะมีบริษัทสักกี่แห่งที่สามารถได้มาซึ่งอธิปไตยบิตคอยน์” ซึ่งเรียกความสนใจจากชุมชนคริปโตได้เป็นอย่างมาก
เมตาแพลนเน็ตขยับปริมาณถือครองรวมเป็น 11,111 BTC และตั้งเป้าเชิงรุกในการสะสมถึง 100,000 BTC ภายในปี 2026 และ 210,000 BTC ภายในปี 2027 โดยมีราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 94,695 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมราว 1.57 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.18 แสนล้านเยน ตัวเลขนี้คิดเป็นสัดส่วน 15.3% ของมูลค่าตลาดรวมของเมตาแพลนเน็ตที่ประเมินไว้ที่ประมาณ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 9.31 ล้านล้านเยน
ยุทธศาสตร์การลงทุนในบิตคอยน์ของเมตาแพลนเน็ตยังส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัทด้วย โดยล่าสุดมีการซื้อขายที่ราว 1,635 เยนต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้นเกือบ 6 เท่า หากสามารถถือครอง BTC ได้ตามเป้าหมาย 210,000 BTC ด้วยราคาในปัจจุบัน มูลค่าพอร์ตจะทะลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 2.78 ล้านล้านเยน
ฟากฝั่งสแตรตทิจีก็ยังคงเดินหน้าเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่งเพิ่มพอร์ตอีก 10,100 BTC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันถือครองรวมกว่า 592,100 BTC ด้วยราคาซื้อเฉลี่ยประมาณ 70,664 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่ารวมของสินทรัพย์บิตคอยน์ที่บริษัทถืออยู่พุ่งแตะ 6.04 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 8.39 ล้านล้านเยน คิดเป็น 58.5% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของบริษัท
ทั้งสองบริษัทมักจะเปิดเผยดีลการลงทุนในวันจันทร์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็น ‘สัญญาณการลงทุน’ ที่ตลาดเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 1 แสนดอลลาร์ชั่วขณะ ก่อนจะดีดตัวกลับ ท่าทีที่มั่นคงในการเข้าซื้อของทั้งสองจึงถูกตีความว่าเป็นการสะท้อน ‘ความเชื่อมั่นในตลาด’
ปรากฏการณ์ที่บริษัทต่าง ๆ เริ่มมองบิตคอยน์ไม่ใช่แค่เครื่องมือกระจายความเสี่ยง แต่เป็น ‘เครื่องมือเพื่ออธิปไตย’ กำลังค่อย ๆ แสดงตัวชัดเจนขึ้น และคำถามของเซย์เลอร์ก็อาจกลายเป็นสัญญาณของกลยุทธ์ใหม่สำหรับบริษัทมหาชน และอาจเชื่อมโยงไปถึงระดับประเทศในอนาคต ความคิดเห็นจากวงการชี้ว่าการได้มาซึ่ง ‘อธิปไตยบิตคอยน์’ อาจกลายเป็นแนวคิดหลักที่ชี้วัดความสามารถในการปรับตัวขององค์กรในยุคของสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0