ราคาของริปเปิล(XRP) ร่วงลงต่ำกว่า 2 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,780 บาท) เป็นครั้งแรกในรอบ 12 สัปดาห์ ท่ามกลางภาวะการเทขายครอบคลุมตลาดคริปโตโดยรวม โดยข้อมูลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า XRP ลดลง 2% มาอยู่ที่ระดับ 1.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,761 บาท) และเคยแตะระดับต่ำสุดที่ 1.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,641 บาท) โดยรวมแล้วราคาลดลงกว่า 7.9% ภายในเพียงสองวัน นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ซึ่งราคายืนอยู่ที่ 2.17 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,016 บาท)
แม้ราคาจะลดลงต่อเนื่อง แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานของริปเปิลโดยตรง เบอร์ซาน อัลจาราห์(Versan Aljarrah) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทการลงทุนระดับโลกอย่าง Black Swan Capitalist ระบุว่า “XRP เพียงแค่เคลื่อนไหวตามแนวโน้มตลาดโดยรวม” พร้อมเสริมว่า ‘ฟังก์ชัน’ และ ‘การใช้งานจริง’ ยังไม่พบปัญหาใด
ตลาดคริปโตทั้งหมดตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยเฉพาะบิตคอยน์(BTC) ที่ร่วงลง 4.9% ภายในหนึ่งวัน ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ดิ่งลงแรงถึง 14% โทเคนชื่อดังอื่นอย่างโซลานา(SOL), ดอจคอยน์(DOGE), คาร์ดาโน(ADA) และ SUI ต่างก็เผชิญกับการปรับตัวลงในระดับสองหลักเช่นกัน
ส่วนหนึ่งของ ‘แรงเทขาย’ อย่างหนักนั้น สืบเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์สามแห่งในอิหร่าน ส่งผลให้สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรง โดยอิหร่านได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล และขู่ว่าจะโจมตีกองทัพสหรัฐฯ ภายในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐสภาอิหร่านยังได้ผ่านร่างกฎหมายปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก
การปะทะที่เกิดขึ้นยังได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยราคาน้ำมันเบรนต์ปรับขึ้นกว่า 3% และน้ำมัน WTI พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นถึง 100 ถึง 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ประมาณ 139,000 ถึง 208,500 บาท) ความเสี่ยงต่อ ‘เงินเฟ้อ’ และ ‘สภาพคล่อง’ ทั่วโลกจะยิ่งหนักขึ้น นี่ถือเป็นปัจจัยกดดันโดยตรงต่อ *ผลตอบแทนจากการขุดบิตคอยน์* และอาจยิ่งซ้ำเติมตลาดคริปโต
แม้จะมีแรงขายและความผันผวนสูง แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของ XRP นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง อีแกร็ก คริปโต ระบุว่า ราคาของ XRP อาจพุ่งไปถึง 6.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 9,313 บาท), 13 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,070 บาท) หรือแม้กระทั่ง 27 ดอลลาร์ (ประมาณ 37,530 บาท) ได้ในอนาคต โดยอ้างอิงจากภาพรวมแนวโน้มก่อนหน้าในปีที่แล้วที่ XRP ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 310% ซึ่งดีกว่าทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียม
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้นักลงทุนมองข้ามการปรับฐานระยะสั้น และหันมาโฟกัสที่ ‘การใช้งานจริง’ และ ‘ศักยภาพในระยะยาว’ ของ XRP มากกว่า โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงิน และการสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ ที่เชื่อว่าช่วยสร้าง ‘คุณค่าอย่างต่อเนื่อง’ แม้จะอยู่ในสภาวะตลาดผันผวนก็ตาม
ความคิดเห็น 0