ริปเปิล(XRP) อาจเกิดการทะลุกรอบราคาครั้งใหญ่ นักวิเคราะห์ชี้จุดเปลี่ยนกำลังใกล้เข้ามา

ราคาของริปเปิล(XRP) กำลังแสดงสัญญาณที่น่าจับตา แม้จะไม่มีการร่วงลงแบบทันที แต่ลักษณะของการเคลื่อนไหวในกรอบแคบเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ผสมกับปริมาณซื้อขายที่ลดลงอย่างมีนัยยะ ส่งสัญญาณว่า ‘จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่’ อาจกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นในตลาดต่างจับตาว่าสภาวะเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณของ ‘ตลาดขาขึ้นครั้งใหม่’ หรือไม่ก็ ‘การดิ่งลงรุนแรง’

เมื่อวันที่ 26 ตามข้อมูลล่าสุด XRP เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) 50 วัน, 100 วัน และ 200 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบคล้ายแรงอัดในหม้อความดันที่รอการระเบิด หากราคาทะลุแนวใดแนวหนึ่งก็อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่รุนแรงในทิศทางนั้น ขณะเดียวกัน ค่า RSI (Relative Strength Index) ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 50 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดยังอยู่ในภาวะ ‘รอดูสถานการณ์’

สิ่งที่น่ากังวลคือ ‘ปริมาณการซื้อขายที่ตกต่ำลง’ ซึ่งเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทิศทางราคา XRP ขณะนี้ดูเหมือนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายยังไม่สามารถชิงความได้เปรียบในตลาดได้ชัดเจน ย้อนดูประวัติที่ผ่านมา ลักษณะเช่นนี้มักนำไปสู่การ ‘ทะลุกรอบราคาครั้งสำคัญ’

นักวิเคราะห์บางรายประเมินว่า หาก XRP สามารถฝ่าแนวต้านของเส้น EMA 50 วันและ 100 วัน ได้สำเร็จ เป้าหมายราคาเบื้องต้นจะอยู่ที่ 2.22 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,086,000 วอน) และถ้าแรงซื้อต่อเนื่องไปถึง 2.28 ดอลลาร์ (ราว 3,169,000 วอน) ก็มีโอกาสทะยานไปสู่ช่วง 2.40–2.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,336,000 – 3,475,000 วอน)

ในทางกลับกัน หากแนวรับถัดไปพังลง โดยเฉพาะการหลุดต่ำกว่าเส้น EMA 200 วัน ราคาก็อาจร่วงลงอย่างรวดเร็วไปอยู่ที่ 2.10 ดอลลาร์ (ราว 2,919,000 วอน) หรือ 2.00 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,780,000 วอน) ได้เช่นกัน

‘ความคิดเห็น’: XRP อยู่ในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และความเงียบสงบในตอนนี้อาจไม่คงอยู่ได้นาน เนื่องจากแนวโน้มการขยับในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วดูจะเป็นเพียง ‘เรื่องเวลา’

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การเคลื่อนไหวของ XRP ในช่วงหลังมานี้ได้รับแรงกดดันทั้งจากประเด็นด้านกฎระเบียบ การขยายตัวของระบบนิเวศของบริษัทริปเปิล รวมถึงกระแส ‘โทเค็นไรเซชัน’ (Tokenization) ในตลาดเงินระดับโลก ดังนั้น หากเกิดความเปลี่ยนแปลงราคาอย่างเฉียบพลัน ปฏิกิริยาของนักลงทุนก็อาจรุนแรงตามไปด้วย

ผู้ลงทุนจึงควรจัดการความเสี่ยงในระยะสั้นให้รอบคอบ และรอ ‘สัญญาณชัดเจน’ ก่อนเข้าซื้อหรือขายจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในเวลานี้