พายคอยน์(PI) ผนึกกำลัง Banxa และ Onramper เปิดช่องแลกเปลี่ยนระดับโลก แม้ราคาดิ่ง 3.6%

เครือข่าย Pi ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ Banxa และ Onramper ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วไปและคริปโต หรือที่รู้จักในชื่อ *on-ramp* โดยมีเป้าหมายขยายแนวทางการใช้งานของเหรียญพายคอยน์(PI) ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นในระดับสากล อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาของ *พายคอยน์(PI)* กลับปรับตัวลดลง สวนทางกับความคาดหวังของนักลงทุน

การร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องในวัน Pi2Day โดยได้รับความสนใจเป็นพิเศษเนื่องจาก Banxa และ Onramper เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถซื้อหรือแปลงพายคอยน์เป็นเงินสดได้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Apple Pay, Google Pay หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ที่เคยถือครองพายคอยน์อย่างเดียวโดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน

Banxa ยังได้จัดซื้อพายคอยน์มากกว่า 30.5 ล้าน PI เพื่อใช้ในด้าน ‘สภาพคล่อง’ ซึ่งมีมูลค่าราว 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 264.1 ล้านบาท การเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะสนับสนุนการซื้อขายพายคอยน์ได้ในทันที ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบตัวตน (KYC) บนเครือข่าย Pi สามารถเปิดกระเป๋าเงินและใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านระบบของ Banxa ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าร่วมสำหรับผู้ใช้งานใหม่

ในขณะเดียวกัน Onramper มีความโดดเด่นด้านการรวบรวมโซลูชันการชำระเงินต่างๆ เอาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีการชำระเงินและสกุลเงินที่เหมาะสมกับประเทศและภูมิภาคของตนเอง พร้อมเปรียบเทียบบริการของพาร์ตเนอร์แต่ละราย รวมถึง Banxa ก่อนดำเนินการซื้อขาย

แม้จะมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานพายคอยน์มากขึ้น แต่ราคากลับไม่ตอบรับในเชิงบวก โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า พายคอยน์ลดลงจาก 0.57 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ประมาณ 0.5356 ดอลลาร์ หรือราว 745 บาท ลดลงคิดเป็นประมาณ 3.6% ภายในไม่กี่วัน

อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันคือ ความกังวลเรื่องการ *ปลดล็อกเหรียญพายคอยน์* จำนวนมากในช่วงปลายเดือนนี้ โดยในเดือนกรกฎาคมจะมีการปล่อยเหรียญจำนวน 337 ล้าน PI เข้าสู่การหมุนเวียนในตลาด หากอุปทานเพิ่มสูงขึ้นโดยที่อุปสงค์ไม่รองรับ ราคาพายคอยน์อาจลดต่ำลงไปแตะระดับ 0.40 ดอลลาร์ หรือราว 556 บาท ตามการคาดการณ์จากตลาด

แม้การร่วมมือครั้งนี้จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศของพายคอยน์ โดยเฉพาะในด้าน *โครงสร้างพื้นฐานการซื้อขาย* แต่ก็ยังมีความเห็นว่า การฟื้นตัวของราคาจะต้องมาจากปัจจัยพื้นฐานอย่าง “การใช้งานจริง” และความต้องการที่มั่นคงจากผู้ใช้งานมากกว่าเพียงแค่การเปิดช่องทางซื้อขายใหม่ ๆ