ตลาดคริปโตกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวด *เหรียญมีม(Meme Coin)* ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังจากความเคลื่อนไหวราคาครั้งล่าสุดนำไปสู่การปรับฐานที่แรงสำหรับเหรียญชื่อดังอย่าง *โดจคอยน์(DOGE)*, *บองค์(BONK)* และ *เปเป(PEPE)* ขณะเดียวกัน โครงการใหม่บางรายกลับสวนกระแส มุ่งหน้าชิงพื้นที่ในกลุ่มเหรียญชั้นนำ จนกลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางภาวะตลาดที่กำลังซบเซา
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม มูลค่าตลาดรวมของคริปโตลดลงกว่า 2.6% ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งวัน โดยเฉพาะ *เหรียญมีม* ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เหรียญกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ *มูรัด มามูดอฟ(Murad Mahmudov)* และเหรียญธีมแมว ปรับตัวลงเฉลี่ย 13.1% และ 10.8% ตามลำดับ จำนวนการร่วงลงถือว่าอยู่ในระดับ *สองหลัก* ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับนักลงทุนสายเสี่ยงสูง
*โดจคอยน์(DOGE)* ซึ่งยังเป็นเหรียญมีมอันดับหนึ่งตามมูลค่าตลาด ลดลง 2.8% เหลือเพียง 0.1596 ดอลลาร์ (ประมาณ 222 บาท) ขณะที่ *เปเป(PEPE)* ตกลง 2.5% อยู่ที่ระดับ 0.000009454 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.013 บาท) ส่วน *บองค์(BONK)* อ่อนค่าลง 3.3% ลงมาแตะระดับ 0.00001379 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.019 บาท) ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดของปี
ในกลุ่มเหรียญที่ได้รับผลแรงที่สุดคือ *SPX6900* เหรียญมีมของ *มูรัด มามูดอฟ* ซึ่งดิ่งลงหนักถึง 11.5% ราคาตกลงต่ำกว่า 1.14 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,585 บาท) พร้อมความเสี่ยงที่มูลค่าตลาดจะลงไปต่ำกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 แสนล้านบาท)
ไม่เพียงเท่านั้น *ชิบะอินุ(SHIB)* ซึ่งเป็นเหรียญมีมอันดับสอง ก็ไม่รอดพ้นจากกระแสดิ่งตัว โดยราคาลดลง 1.6% อยู่ที่ 0.00001124 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.016 บาท) สะท้อนภาพรวมของความเชื่อมั่นที่ถดถอยต่อสินทรัพย์กลุ่มมีมในช่วงนี้
ท่ามกลางสีแดงทั่วตลาด เหรียญ *PENGU* จากโครงการ NFT ที่ชื่อว่า *เพนกวิน(Pudgy Penguins)* กลับสามารถดีดตัวขึ้นได้ถึง 8.7% ทะยานแตะระดับสูงสุดที่ 0.014161 ดอลลาร์ (ประมาณ 20 บาท) ส่งสัญญาณว่าอาจเข้าอยู่ในกลุ่ม 100 เหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดในไม่ช้า
มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมขณะนี้ถอยลงต่ำกว่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,726 ล้านล้านบาท) ทั้ง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ต่างปรับตัวลงในกรอบ 1.5% ถึง 2.0% ส่งผลให้แรงกดดันต่อการปรับตัวฟื้นตัวยังคงอยู่
*ความคิดเห็น*: แม้ตลาดมีมโทเคนกำลังดิ่ง แต่โครงการที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนและชุมชนให้การสนับสนุน ยังมีโอกาสทำผลงานสวนทางได้ ความเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์การลงทุนและจิตวิทยาตลาดจะมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของเหรียญมีมในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0