บิตคอยน์(BTC) ส่อเค้า 'ขาขึ้น' หลังเกิดโกลเดนครอส พร้อมแรงหนุนจากนักลงทุนสถาบัน

บิตคอยน์(BTC) ส่งสัญญาณ ‘ขาขึ้น’ ทางเทคนิครอบใหม่ หลังเกิดปรากฏการณ์โกลเดนครอสบนกราฟรายชั่วโมง โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น 9 วันตัดขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 21 วัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญาณ *แนวโน้มขาขึ้น* ที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจับตามองอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางการเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดเริ่มคาดว่า โกลเดนครอสครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อแนวโน้มของบิตคอยน์

ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างประมาณ 13.84 ล้านถึง 15.01 ล้านบาท แต่ภายหลังเกิดโกลเดนครอส ราคาก็ได้ปรับเพิ่มขึ้นแตะ 14.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 0.75% จากวันก่อนหน้า ขณะที่ระดับ *สูงสุดตลอดกาล* ที่เคยทำไว้ซึ่งอยู่ราว 15.57 ล้านบาทนั้น ยังห่างออกไปราวไม่ถึง 5% จึงมีความเป็นไปได้ที่บิตคอยน์อาจพยายามทดสอบระดับนั้นในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ สัญญาณทางเทคนิคอื่นก็สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น โดยตัวชี้วัด RSI บนกราฟเวลา 6 ชั่วโมง ได้เข้าสู่โซน *ขายมากเกินไป* ยิ่งตอกย้ำถึงโอกาสการฟื้นตัวในทางเทคนิค นำไปสู่ความเชื่อมั่นว่า ราคาบิตคอยน์อาจเบรกกรอบการแกว่งตัวในช่วงที่ผ่านมา และเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบถัดไป

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาคือการไหลเข้าของเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะจากแบล็คร็อก ซึ่งตามรายงานในเดือนมิถุนายน บริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์เป็นมูลค่าสูงถึง 3.85 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 5.35 หมื่นล้านบาท ซึ่ง *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณว่า ความเชื่อมั่นในคริปโต โดยเฉพาะบิตคอยน์ กำลังกลับคืนสู่กลุ่มนักลงทุนในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม

แม้โกลเดนครอสจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าการปรับขึ้นจะยั่งยืน โดยบางครั้งอาจเป็นเพียง ‘สัญญาณหลอก’ ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ปรากฏ ณ ตอนนี้ ทั้งจาก ETF และแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่ ล้วนส่งเสริมความเป็นไปได้ว่า *บิตคอยน์ยังมีแรงขับเคลื่อนเพื่อขึ้นต่อได้ในระยะสั้น*