Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) แกร่งท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก–ผู้บริหารไบนานซ์ชี้ตลาดคริปโตยังไม่สิ้นหวัง

บิตคอยน์(BTC) แกร่งท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก–ผู้บริหารไบนานซ์ชี้ตลาดคริปโตยังไม่สิ้นหวัง / Tokenpost

ครึ่งปีแรกของปี 2025 ตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกเผชิญแรงกดดันทั้งจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะการเงินที่ไม่แน่นอน ซึ่งตลาดคริปโตก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว ตลาดคริปโตก็ยังคงแสดงให้เห็นถึง *ความยืดหยุ่น* และก้าวเข้าสู่การเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนพิจารณาอีกครั้ง โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* ซึ่งถูกหยิบยกมาเป็นหัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ ดาวิด แพรงเซ(David Prinçay) ประธานไบนานซ์ฝรั่งเศส

แพรงเซชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ *เศรษฐกิจมหภาค* ในปัจจุบันกำลังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับคริปโต โดยมีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์ดั้งเดิม เขาอธิบายว่า “ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ แทนที่จะเข้าสู่คริปโต” เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบัน *บิตคอยน์* มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นสูงขึ้นมากกว่าในอดีต แม้จะเคยถูกขนานนามว่าเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’

แพรงเซยกตัวอย่างช่วงเดือนเมษายนที่ตลาดปรับฐานแรง โดย *บิตคอยน์* ร่วงเพียง 19.1% ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* ลดลงกว่า 40% และสินทรัพย์แนวใหม่อย่างมีมคอยน์ หรือธีม AI ร่วงมากกว่า 50% ซึ่งสะท้อนว่าบิตคอยน์มี *ความสามารถในการต้านทานความผันผวน* มากขึ้นอย่างชัดเจน เขายังชี้ว่าหากธนาคารกลางมีการกลับลำด้านนโยบายอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ *บิตคอยน์จะกลับมาเป็นสินทรัพย์ต้านเงินเฟ้อ* อีกครั้ง

เมื่อถูกถามว่า ‘ซีซั่นของอัลท์คอยน์’ จะมีโอกาสกลับมาอีกครั้งหรือไม่ แพรงเซให้ความเห็นว่า เทรนด์ปัจจุบันชี้ชัดว่า “กองทุนสถาบันและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติยังคงให้ความสำคัญกับบิตคอยน์” และเทรนด์นี้มีแนวโน้มดำเนินต่อไปในระยะสั้น แต่ในระยะยาว หากราคาบิตคอยน์เข้าสู่ช่วงนิ่ง ก็มีโอกาสที่นักลงทุนจะกระจายความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้อัลท์คอยน์ได้รับความสนใจอีกครั้ง

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์(CEX) อย่างไบนานซ์ กับคู่แข่งในรูปแบบใหม่ เช่น *ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid)* ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ แพรงเซระบุว่า “โครงการนวัตกรรมเหล่านี้กำลังท้าทายระบบเดิม และเป็นแรงกระตุ้นเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมโดยรวม” พร้อมเน้นว่าไบนานซ์เองก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านตัวเลข *ปริมาณธุรกรรมต่อวันในกระเป๋าไบนานซ์* ที่ทะลุ 12.5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17.3 ล้านล้านวอน

ท้ายสุด เมื่อถูกถามถึงทฤษฎี ‘วัฏจักร 4 ปี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรอบแนวคิดหลักของตลาดคริปโต แพรงเซกล่าวว่า “ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะปฏิเสธทฤษฎีนี้” แม้ว่าการแกว่งตัวของราคาบางช่วงจะสัมพันธ์กับแรงกระทบจากเศรษฐกิจมหภาค แต่ภาพรวมระยะยาวยังคงแสดงรูปแบบการฟื้นตัวที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าสิ่งที่ต้องจับตามองคือการที่ตลาดกำลังเติบโตและมีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ซึ่งอาจส่งผลต่อวัฏจักรดังกล่าวในอนาคต

บทสัมภาษณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นภาพรวมของโลกคริปโตยุคใหม่ในท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน *บิตคอยน์*, แพลตฟอร์มศูนย์กลาง, นวัตกรรมแบบกระจายศูนย์ และทฤษฎีดั้งเดิม กำลังปะทะกันกลางเวทีการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลังของปี 2025 นับเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนควรจับตาและประเมินทิศทางอย่างรอบคอบ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1